ทัวร์ลง! หลัง ‘ชาว สธ.’ ผุดแฮชแท็ก #ทองแท้ไม่กลัวไฟ ส่งกำลังใจให้’อนุทิน’ รวมทั้งบุคคลากรทางการแพทย์ ที่ทุ่มเทรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนลุกลาม กลุ่มต้าน ออกมากระหน่ำโจมตีอีกระลอก กลายเป็นสงครามโซเชียล ทั้ง ต้านและหนุน รมว.สาธารณสุข
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด19 ในไทย ที่ยังลุกลามอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2048 ราย จนเกิดปัญหาผู้ป่วยเข้าไม่ถึงการรักษา ไม่มีเตียงรองรับ กระทบถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ถูกหลายฝ่ายต่อว่า ไม่มีการวางแผนบริหารจัดการที่ดี
ล่าสุดวันนี้(26 เม.ย.64) มี ประชาชนจำนวนมากต่างออกมาให้กำลัง หมอ พยาบาล อาสาสมัคร ที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก รวมทั้งหลายโรงพยาบาลของรัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทั้งภาพและข้อความให้กำลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล อาทิ โรงพยาบาลปากช่องนานา ระบุว่า ชาวสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาขอให้กำลังใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้เสียสละทุ่มเท แรงกายแรงใจ ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดครับ #ทองแท้ไม่กลัวไฟ #Saveอนุทิน
ด้านโรงพยาบาลลำปาง ก็โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันระบุว่า บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โรงพยาบาลลำปาง ขอขอบพระคุณท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีระกูล ที่ได้เมตตาดูแลพวกเรา และแก้ปัญหาสุขภาพของพี่น้องประชาชน ทุ่มเทแก้ปัญหาการระบาด ไวรัสโควิด-19 มาโดยตลอด ขอเป็นกำลังใจให้ท่านร่วมสู้ไปกับพวกเราต่อไป #ทองแท้ ย่อมเป็นทองแท้ #สู้ต่อไปด้วยกัน
หลังจากที่โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์เชิงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เช่น ก่อนจะใช้คำว่า ‘ชาวสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา’ รบกวนปรึกษาทุกๆ คนในจังหวัดก่อนว่าเขาเห็นด้วยกับโพสต์นี้หรือไม่ , ก่อนโพสต์แบบนี้ได้ถามคนในโรงพยาบาลหรือยัง, ควรเซฟบุคลากรในโรงพยาบาลคุณและโรงพยาบาลทั้งประเทศก่อน หรือแม้กระทั่งคอมเม้นต์ของโรงพยาบาลลำปาง เช่นกัน ปรากฎว่ามีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ก็เข้าไปคอมเม้นต์กันอย่างหนัก
ทั้งนี้ โลกโซเชียลยังกล่าวถึงนายอนุทินอีกหนึ่งกรณี คือเคมเปญล่ารายชื่อผ่านทางเว็บไซต์ Change.org โดย “หมอไม่ทน” เรียกร้องให้นายอนุทินลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาดของ โควิด 19 ในประเทศไทย โดยล่าสุด วันนี้ 26 เม.ย.64 เมื่อเวลา 13.55 น. ยอดผู้ลงชื่อร่วมสนับสนุนการ “ไล่อนุทิน” ผ่าน www.change.org รวม 170,266ชื่อแล้ว