“อนุทิน”ลุย!!หัวหิน จัดยารักษาผู้ป่วยโควิดล้นรพ. ผวจ.ประจวบฯเมินโดนร้องป.ป.ช.

รมว.สาธารณสุข เตรียมลงพื้นที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดหายารักษาผู้ป่วยโควิดล้นรพ. ขณะ ผวจ.ประจวบฯ เมินโดนร้อง ป.ป.ช.ปล่อยมั่วสุมทำโควิดระบาด

วันที่ 22 เม.ย.64 นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 897 ราย อยู่ระหว่างรักษา 784 ราย รักษาหายแล้ว 112 ราย มีผู้ป่วยโควิดติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัด 37 ราย เป็นการระบาดจากการร่วมดื่มกินและชมคอนเสริ์ตที่มายาผับ อ.หัวหิน และ คลัสเตอร์จากผับ ร้านคาราโอเกะใน อ.หัวหิน และ อ.เมืองประจวบฯ ล่าสุดพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 14 ราย อาการปานกลาง 17 ราย มีผู้ป่วยเข้ารับการักษามากที่สุดที่โรงพยาบาลหัวหิน จำนวน 510 ราย โรงพยาบาลปราณบุรี 139 ราย โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ 88 ราย ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้นายอนุทิน ชาญวีระกุล รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขจะเดินทางมาให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลหัวหิน พร้อมนำเวชภัณฑ์มามอบให้ และจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ที่กำลังขาดแคลนเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด

ด้านนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากปัญหาที่มีประชาชนติดเชื้อจำนวนมากในสถานบริการภายในจังหวัด ที่เข้าข่ายประกอบกิจการผิดกฎหมาย สำหรับ จ.ประจวบฯมีสถานบริการค่อนข้างมากถือว่าได้รับผลกระทบ ต่อไปหากพี่น้องประชาชนพบเห็นสถานบริการเปิดเกินเวลาขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ และขอเรียนว่าไม่หนักใจกรณีที่มีการร้องเรียนคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในการดูแลกฎหมาย เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีปล่อยให้มีการมั่วสุมชมคอนเสริ์ตที่มายาผับ เมื่อวันที่ 30 มีนยาคม ที่ผ่านมา ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้น หากสถานบริการกระทำความผิด ต้องดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในมายาผับ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐาน ส่วนกรณีที่มองว่าการสอบสวนล่าช้า หลังมีการจัดคอนเสิร์ตตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม เรื่องนี้ให้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“ฝ่ายปกครองได้แจ้งความดำเนินคดีกับมายาผับที่ สภ.หัวหิน เข้าขายความผิดจากกฎหมายหลายฉบับ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะที่ก่อนการจัดคอนเสริ์ตในวันที่ 30 มีนาคม คาดว่า ศปก.อำเภอไม่ได้ตรวจสอบล่วงหน้าเพื่อวางมาตรการป้องกันโรค หรือ เชิญผู้ประกอบการไปชี้แจงแนวทาง ส่วนจะมองว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ขอเรียนว่าผู้รับผิดชอบในสังคมต้องพิจารณา สำหรับกรณีเจ้าพนักงานปกครองอำเภอหัวหินระดับสูงรายหนึ่งไปร่วมดื่มกิน ที่มายาผับในวันที่ 30 มีนาคม มีรายชื่อเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหินตรวจสอบทราบว่าผู้เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการปิดป้ายด้านหน้าสถานประกอบการเป็นมายาผับ แต่ชื่อในใบอนุญาตเป็นชื่อเดิม ขอเรียนว่าชื่อใหม่เป็นชื่อในการทำธุรกิจ แต่ในใบอนุญาตเป็นชื่อไฮโฟว์ หลักปฎิบัติถือว่าทำได้” นายพัลลภ กล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเที่ยวมายาผับในวันที่ 30 มีนาคม ต้องดูเป็นรายบุคคลว่ามีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ยอมรับว่ามีข้าราชการหลายรายติดเชื้อโควิด

จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ปัญหาจากการระบาดของโควิด 19 ในจังหวัดที่มีต้นตอจากสถานบันเทิงหลายแห่ง ในพื้นที่ อ.หัวหิน และ อ.เมืองประจวบฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิต กระทบการประกอบอาชีพของประชาชน ทำให้การท่องเที่ยวเสียหายทั้งจังหวัดหลายร้อยล้านบาท จึงรวบรวมหลักฐานยื่นร้องเรียนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เพื่อให้ทำการไต่สวนเอาผิดข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เนื่องจากเข้าข่ายปล่อยปละละเลยให้สถานบันเทิงที่มีใบอนุญาตทั้งในและนอกโซนนิ่งเปิดเกินเวลา มีการมั่วสุมผิด พรก.ฉุกเฉิน

“ป.ป.ช.ต้องสอบสวนปัญหาจากการปล่อยให้มายาผับเปิดบริการเกินเวลาตามไทม์ไลน์ที่ผู้ป่วยยืนยัน หรือหากฝ่ายปกครองรายงานว่าถึงผู้ว่าราชการจังหวัดว่าปิดตรงตามที่กฎหมายกำหนดในเวลา 01.00 น. ขอให้ฝ่ายปกครองนำภาพจากกล้องวงจรปิดใช้เป็นหลักฐานยืนยัน และขอให้ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบกรณีการใช้ใบอนุญาตสถานบริการชื่อไฮโฟว์ แต่ผู้ประกอบการขึ้นป้ายใหม่เป็นผับมายา โดยฝ่ายปกครองอำเภอไม่ได้ดำเนินการทักท้วง ให้การประกอบกิจการถูกต้องตาม พ.ร.บ.สถานบริการ“ จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว