พท. ฉะยับ “ไพบูลย์” ชง แก้รัฐธรรมนูญ แค่ละครตบตาประชาชน

เลขาธิการ เพื่อไทย ซัด “ไพบูลย์” ชง แก้รัฐธรรมนูญ แค่ละครตบตาประชาชน ชี้ ปากว่า ตาขยิบ ยังคงให้อำนาจ 250 ส.ว.เลือกนายกฯ

วันที่ 4 เม.ย.64 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุ จะไม่รับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิน ว่า สิ่งที่นายไพบูลย์ พูดมาทั้งหมดนี้ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ส.พปชร. หรือยัง เพราะเท่าที่ติดตามไม่มี ส.ส.คนไหนออกมาพูดเช่นนี้ และยังไม่เห็นว่า มีมติของพรรคในเรื่องนี้ออกมา ที่ผ่านมา การโหวตประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญในซีก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และส.ว.เอง ยังไม่มีเอกภาพพอ อย่าไปมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเอาแต่ใจตัวเองได้ ที่สำคัญ นายไพบูลย์ ยังต้องไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้ชัดเจนก่อนว่า เอาด้วยหรือไม่ การออกมาบอกว่า ถ้ามีเนื้อหาเกินจากที่ตัวเองเสนอ จะไม่เอาด้วยเช่นนี้ไม่ถือเป็นนักประชาธิปไตย ท่าทีที่ผ่านมาของนายไพบูลย์ เวลาแสดงความคิดเห็นอะไรก็ไม่คงเส้นคงวา กลับไปกลับมาตลอด

ตนจึงเห็นว่า การจะมัดมือชกใครเช่นนี้ ไปฟังเสียงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองก่อนดีกว่า ที่สำคัญเงื่อนไขอย่างหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องได้รับความเห็นชอบจากเสียงฝ่ายค้าน ไม่น้อยกว่า 20% ถึงจะแก้ได้ ไม่ใช่พวกมากลากไปได้ทั้งหมด ดังนั้นการออกมาพูดเช่นนี้ถือไม่จริงเหมือนไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าไม่อยากแก้ขอให้พูดกันตรงๆ ดีกว่า มาแสดงละครตบตาประชาชนเพื่อลดแรงปะทะให้กับรัฐบาล

เมื่อถามถึงกรณีที่นายไพบูลย์ เน้นย้ำไม่แตะอำนาจ ส.ว. นายประเสริฐ ตอบว่า การพูดเช่นนี้นายไพบูลย์ พูดข้ามหัวประชาชนหรือไม่ เพราะขณะนี้เสียงเรียกร้องของประชาชนที่ดังที่สุดเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ การลดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกฯ เพื่อให้นายกฯ มาจากเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ไม่เป็นการสืบทอดอำนาจตามที่ คสช.วางกลไกไว้แต่ต้น ดังนั้นส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการคงอำนาจ ส.ว.ให้เลือกนายกฯ และจากการพูดคุยกับส.ส.ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน หลายคนก็เห็นตรงกันว่า นายกฯ ควรมาจากเสียงของประชาชน

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะมีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จากที่ได้หารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เห็นตรงกันว่า จะมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการคิดว่า เมื่อมีการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ พรรคร่วมฝ่ายค้าน คงได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดความรอบคอบและตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด