รองนายกฯ บอกไม่วิตก หลังศาลปกครองกลางสั่งยกเลิกคำสั่งให้ ‘ยิ่งลักษณ์’ ชดใช้ 3.5 หมื่นล้าน จากคดีทุจริตจำนำข้าว หยุดอายัดทรัพย์ เตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ย้ำยังมีความผิดทางคดีอาญาอยู่
วันที่2 เม.ย.64 เวลา 13.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาลนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางสั่งยกเลิกคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาท ในคดีทุจริตจำนำข้าว พร้อมเพิกถอนคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อ่านฉบับเต็ม! ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่ง’ยิ่งลักษณ์’ไม่ต้องชดใช้คดีจำนำข้าว 3.5 หมื่นล.) ว่า ในส่วนของทรัพย์สินที่รัฐได้ดำเนินการยึดมาเบื้องต้น มีไม่ถึง 100 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมยึดต่อ แต่เมื่อศาลปกครองกลางสั่งมาแบบนี้ ก็ต้องหยุดและดำเนินการอุทธรณ์ต่อไปภายใน 30 วัน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา
นายวิษณุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ศาลก็ได้ตัดสินคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ซึ่งได้สั่งให้มีการยึดทรัพย์ ซึ่งทั้ง 2 ท่านก็มีการดำเนินการอุทธรณ์ไปแล้ว มาวันนี้กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ศาลมีคำสั่งให้หยุดการยึดทรัพย์ ก็ต้องหยุด แต่ก็ต้องเข้าใจว่าคดียังไม่ถึงที่สุด ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นเจ้าทุกข์ก็ต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ก็ไม่เป็นไร เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุดก็ว่ากันไปตามขั้นตอน การยึดทรัพย์ก็มีชนะบ้าง แพ้บ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้มีปัญหาอะไร “ก็อย่าไปพูดก็แล้วกันว่า พอฝ่ายไหนชนะก็มาบอกว่าศาลตัดสินยุติธรรม แต่พอแพ้ก็บอกว่าศาลไม่ยุติธรรม หรือเอียงบ้าง 2 มาตรฐาน บ้าง อย่าไปคิดแบบนั้น ปล่อยให้คดีเดินไปจนถึงที่สุดก่อน” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับทรัพย์สินที่อายัดไว้ ก็ต้องค้างไว้ก่อน ซึ่งทรัพย์สินที่ยึดมาได้ความจริงไม่กี่สตางค์ เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ยึดมาเพียงนิดหน่อย ตัวเลข 2 หลักเท่านั้น ไม่ถึงหลักร้อยล้านบาท เมื่อถามว่าได้มีการขายทอดตลาดไปบ้างแล้วหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่แน่ใจ เจ้าหน้าที่เคยรายงานมาแต่เพียงว่ามีที่โน่นนิดที่นี่หน่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่หากยึดทรัพย์มาแล้ว และขายทอดตลาดไปแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำสั่งออกมาเช่นนี้ ทางรัฐจะดำเนินการอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า คดียังไม่ถึงที่สุด ก็ต้องหยุดเอาไว้ก่อน จะให้คืนไปแล้วบอกว่าหากหลังจากนี้ศาลสั่งให้ยึด ก็ค่อยไปยึดอีก ซึ่งจะเอากลับไปกลับมามันไม่ได้ ดังนั้นกรณีนี้เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งแบบนี้เราก็ต้องหยุดไว้ก่อนทั้งหมด รอการดำเนินคดีในชั้นศาลปกครองสูงสุดต่อไป อย่างเรื่องบ้านพักที่ซอยโยธินพัฒนาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยึดไว้เฉยๆ แต่ไม่ได้ทำอะไร และเจ้าของก็ยังคงอาศัยอยู่ได้ จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังซึ่งเป็นเจ้าทุกข์ที่จะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยจะมีอัยการมาช่วยดำเนินการให้
เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยของศาลปกครองกลางครั้งนี้จะมีผลต่อสู้ในคดีอาญาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ต้องเข้าใจว่าคดีนี้เริ่มต้นจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิพากษาว่าจำเลยมีความผิด เป็นการละเว้นในฐานะที่เป็นประธาน และต่อมา ป.ป.ช. ก็มีหนังสือแจ้งมาว่า ให้ไปจัดการยึดทรัพย์ และเมื่อยึดทรัพย์แล้ว ทางผู้เสียหายก็ฟ้องถอนการยึด ซึ่งก็เหมือนกับกรณีของนายบุญทรง อย่างไรก็ตามตนยังไม่เห็นคำพิพากษานี้ มีแต่คนสรุปมาให้ฟังก็ต้องปล่อยให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน “ผมเพียงแต่จะรู้สึกแย้งๆกับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น” นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ฝ่ายจำเลยสามารถที่จะนำคำพิพากษาดังกล่าวไปต่อสู้ต่อได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขายังไม่ได้ทำอะไรหรอก จนกว่าจะให้ถึงที่สุดก่อน ไม่มีใครทำอะไร เมื่อถามว่า ผลการตัดสินของศาลปกครองกลางเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าวิตกในการต่อสู้คดีต่อไปของรัฐหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าแพ้คดีก็ต้องวิตก แต่ก็ไม่ได้วิตกอะไรมาก เพราะยังมีขั้นตอนที่สามารถดำเนินการต่อไปจนถึงที่สุดได้ ส่วนเมื่อถามว่า แสดงว่าคำพิพากษาครั้งนี้ ไม่สามารถกล่าวอ้างได้ใช่หรือไม่ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีความผิด นายวิษณุ กล่าวว่า ยังพูดแบบนั้นไม่ได้เพราะคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่วินิจฉัยไว้ว่ามีความผิดยังคงอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าคำวินิจฉัยของศาลปกครองกลางและศาลอาญา ที่มีความเห็นแย้งกันจะมีผลอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทราบยังคิดไม่ออก แต่การเริ่มต้นยึดทรัพย์ก็เพราะว่า ศาลฎีกาตัดสินว่าผิด ป.ป.ช. จึงได้ให้ไปยึดทรัพย์ และเราก็ไปดำเนินการยึดทรัพย์ แต่เมื่อศาลปกครองชั้นต้นเห็นว่ายังไม่ผิดก็ต้องมีการอุทธรณ์ขึ้นไป ซึ่งก็มีประเด็นให้อุทธรณ์ได้ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่าหลายคนเข้าใจผิดหลังศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยออกมา เพราะคิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยได้เนื่องจากไม่มีความผิด นายวิษณุ กล่าวว่า “ก็กลับมาซิ ถ้าอยากจะกลับมา ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องย้ำและขีดเส้นใต้ไว้ว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด หรือแม้แต่คดีของนายบุญทรง ก็ถือว่ายังไม่ถึงที่สุด ถ้าถามว่าผิดหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าในขณะนี้รัฐก็ยังมีคำพิพากษาของศาลฎีกาว่าผิดอยู่ เพราะถ้าเริ่มต้นศาลบอกว่าไม่ผิดเราจะไปยึดทรัพย์เขาได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่าไม่ผิด จะเกิดการย้อนแย้งกับศาลฎีกาหรือไม่ นายวิษณุ อย่าเพิ่งไปคิด ถ้าแบบนั้น แบบนี้ “เรื่องนี้เขาไม่ทำกัน เตรียมการไว้ได้ แต่เขาไม่ตอบกันในที่สาธารณะ เพราะไม่เช่นนั้น ไม่คุณ ก็ผม คนใดคนหนึ่งต้องละเมิดอำนาจศาลแน่”