โฆษกคลัง วอน!! ปชช ทำตามเงื่อนไข”เราชนะ”แจงเงินสะพัดเกือบ2แสนล.

โฆษกกระทรวงการคลัง เรียกร้อง ปรชาชน และ ผู้ประกอบการ ที่ได้รับสิทธิ์ ในโครงการ เราชนะ คนละครึ่ง ปฏิบัติตามเงื่อนไข ชี้หากจงใจละเมิด จะดำเนินการตามกฎหมาย เผยเงินสะพัดเกือบ 2 แสนล้าน

วันที่ 31 มี.ค.64 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้รับเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตของผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงประชาชนที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เช่น การแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด การขึ้นราคาสินค้าไม่เป็นธรรม ซึ่งกระทรวงการคลัง ได้เร่งติดตามและตรวจสอบการกระทำทุจริตในกรณีต่าง ๆ รวมถึงประสานขอความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ของร้านค้า และดำเนินการตามกฎหมาย

ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชนในการรักษาสิทธิ์ของตนเอง และขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการฯ สามารถแจ้งเบาะแส รวมถึงส่งหลักฐานการกระทำผิดเงื่อนไข ทางไปรษณีย์มาที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail) ของโครงการเราชนะที่ [email protected]

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ว่า 1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 70,010 ล้านบาท 2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และ คนละครึ่ง และ กลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการเราชนะแล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 102,915 ล้านบาท

3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 10,800 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะแล้ว รวมทั้งสิ้น จำนวน 32.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 183,725 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ