ไม่สนถูกตีตก’พาศิกา’ ดิ้นต่อ อาจยื่น’ฎีกา’ พร้อมท้าสำนักจุฬาฯ ดีเบต

พาศิกา ขู่ฟ้อง คนนำผลวินิจฉัยขิงรัฐสภา ตีตกขอยกเลิกกฎหมาย 5 ฉบับไปบิดเบือน เตรียมเข้าสภาฯใหม่ ในเวทีกรรมาธิการ หรืออาจยื่นฎีกา 

เฟซบุ๊ค Pasika Pat suwachan ของ น.ส.พาศิกา สุวจันทร์ นายกสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา โพสต์ข้อควา ระบุว่า ผลการวินิจฉัยร่าง พรบ ทั้ง 5 ฉบับ ถูกตีตก ดังรายละเอียด
1. ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการกิจการพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
2. ร่างพรบ ยกเลิก พรบ ธนาคารอิสลาม 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
3. ร่าง พรบ บริหารองค์กรอิสลาม (ฉบับที่ …) พ.ศ. …
4. ร่างพรบ ยกเลิก พรบ ฮัจย์ 2524 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
5. ร่สงพรบ ยกเลิก ทุนหมุนเวียนฮัจย์ 2558
ด้วยเหตุผลเดียวกับ พรบ บริหารราชกระทรวงพระพุทธศาสนา พ.ศ .… ที่เคยเสนอไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 เนื่องจากว่า พรบ ทั้ง 5 ฉบับไม่เข้าหมวด 3 สิทธิ และ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ

การเสนอกฏหมายของสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาทำไปตามกฏหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 133 ประชาชนมีสิทธิเสนอ ร่างพ.ร.บ. เฉพาะตามที่บัญญัติไว้ใน
หมวด 3สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย
หมวด 5หน้าที่ของรัฐ

เมื่อพิจารณาถึงอำนาจในการเสนอกฏหมายของประชาชนที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แทบไม่มีสิทธิ
ดังนั้นโอกาสที่จะเสนอกฏหมายทางรัฐสภาภาคประชาชนแทบจะเป็น 0 เพราะเงื่อนไขที่จำกัดไว้ที่หมวด 3 และ 5 พร้อมทั้งความเห็นชอบของส.ส. ใน สภา เช่น ไอลอว์ เสนอกฏหมายไป ส.ส. ไม่รับ

แต่อย่างไรก็ตามทางสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนาจะได้หารือแนวทางในการเสนอกฏหมายต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นกรรมาธิการรัฐสภา สำนักนายก หรือแม้แต่ถวายฎีกาขอความเป็นธรรมหาก ส.ส. ในสภายังไม่ยอมเปิดใจรับทราบข้อเท็จจริง

#หมายเหตุ ผู้ใดนำผลการวินิจฉัยไปตีความบิดเบือนถือว่ามีเจตนาหมิ่นประมาทและสร้างความเสียหายให้กับทางสมาคมปกป้องพระพุทธศาสนา เราจะดำเนินคดีตามกฎหมายอาญามาตรา 326 และพรบคอมพิวเตอร์
และอย่าอ้างว่ากฏหมายมีการตีความได้หลายอย่าง ผิดค่ะ เพราะการเสนอกฏหมายเป็นไปตามรธน. มาตรา 133 ซึ่งการตีความมีเพียง หมวด 3 และ หมวด 5 เท่านั้น

ขณะที่อีกโพสต์หนึ่ง ระบุว่า ขอแนะนำให้สำนักจุฬาราชมนตรี จัดดีเบทพรบ อิสลาม ทุกฉบับเลยนะคะ ท่านส่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายของท่านมา เราส่งนักกฏหมายของเรา ขอความร่วมมือจากส่วนกลาง ส่งนักกฏหมายจากส่วนกลางที่เป็นกลางจริงๆมาร่วมฟังด้วยกันต่อหน้าสาธารณชนทั้งประเทศ
อย่าเอาแต่เบี่ยงประเด็นลงคูคลองไปแบบนี้ ประชาชนเจ้าของภาษีทุกศาสนิกชนมีสิทธิ์จะรับรู้ความจริง!