มิสแกรนด์เมียนมา กล่าวทั้งน้ำตา เรียกร้องนานาชาติช่วย หลุดพ้นความเลวร้าย

มิสแกรนด์เมียนมา สะอื้น กลางเวทีประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้ชาวโลก ช่วยปชช. พ้นอำนาจเผด็จการ ขณพกองทัพเมียนมา ใช้กำลังปราบปราม กลุ่มผู้ประท้วงอย่างรุนแรง โดยมีเด็กชายอายุ5ขวบ เสียชีวิตที่เมือง มัณฑะเรย์

วันที่ 27 มี.ค.64 มิสแกรนด์เมียนมา นางสาวหั่น เล กล่าวกลางเวทีประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 ที่ประเทศไทย เมื่อเรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือประชาชนในเมียนมา ที่ถูกทหารและตำรวจสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง เพียงเพราะเรียกร้องประชาธิปไตย

“สวัสดีค่ะ ประชาชนที่รักของฉันทุ่มเทอย่างหนักเพื่อฉัน ให้ฉันมายืนอยู่บนเวทีนี้ในคืนนี้ เพราะเหตุผลนี้เอง พวกเขาจึงอยากให้ฉันพูดเกี่ยวกับความเศร้าโศกและเสียใจในนามพวกเขา ที่กำลังทรมานจากสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศที่รักของฉัน เมียนมา

ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งสำหรับประชาชนที่เสียชีวิตบนท้องถนน พลเมืองโลกทุกคนต้องการความเจริญมาสู่ประเทศตัวเองและบรรยากาศที่สันติ ในการทำให้เป็นเช่นนั้น ผู้นำไม่ควรใช้อำนาจและความโหดร้าย ฉันรู้จักคนบางคน หญิงสาว และเด็กๆ ที่เสี่ยงชีวิตตัวเอง ถ้าสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในบางที่ คนทั้งโลกก็จะช่วยกันหาทางออกและช่วยพวกเขา วันนี้ที่ประเทศของฉัน เมียนมา ตอนที่ฉันกำลังพูดอยู่บนเวทีนี้ มีคนจำนวนมากเสียชีวิต วันนี้มีคนตายไปมากกว่า 100 คน ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกคนที่เสียชีวิต ประชาชนเมียนมา พวกเขาออกไปบนท้องถนนเพื่อประชาธิปไตย”

“ฉันอยากพูดจากที่นี่ว่า ‘ช่วยเมียนมาด้วย เราต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติตอนนี้’ มาช่วยกันสร้างโลกที่ดีกว่านี้ด้วยกันค่ะ เราต้องรับผิดชอบเพื่อคนรุ่นใหม่ ขอให้โลกมีสันติกับเมียนมา” หลังจากกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวเสร็จ มีเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างกึกก้อง นางสาวหั่น เล ก็ร้องเพลง Heal the World (ฮีล เดอะ เวิลด์) ของไมเคิล แจ็คสัน ปิดท้าย

โดยภายหลัง การประกวด เธอให้สัมภาษณ์สื่อว่า ต้องขอพักอยู่ในเมืองไทยสักระยะหนึ่ง โดยยอมรับว่า กังวลต่อความปลอดภัยถ้าจะเดินกลับเมียนมา แต่ยืนยันว่าไม่เสียใจในสิ่งที่พูดออกไป และ ถ้าหากถูกกองทัพเมียนมาจับกุมตัว ก็ไม่กลัว เพราะได้เลือกแล้วที่จะอยู่เคียงข้างชาวเมียนมา

การประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลครั้งนี้ เกิดขึ้นในวันเดียวกันที่มีการประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ซึ่เป็นวันที่มีผู้เสียชี่วิตมากที่สุดวันหนึ่งนับตั้งแต่การยึดอำนาจรัฐบาลที่มีนางออง ซาน ซู จี เป็นผู้นำ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.

เดอะ เมียนมา นาว รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 91 คนทั่วประเทศ ในกลุ่มนี้มีผู้เสียชีวิตในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศถึง 29 คน ซึ่งมีเด็กชายอายุ 5 ปีคนหนึ่ง รวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนที่นครย่างกุ้งมีผู้เสียชีวิตถึง 24 คน

ด้าน ดร.ส่า ส่า โฆษกคณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ (ซีอาร์พีเอช) ซึ่งเป็นกลุ่ม ส.ส. เมียนมา ที่ถูกกองทัพยึดอำนาจ กล่าวในการพูดคุยออนไลน์ว่า “วันนี้เป็นวันที่อัปยศที่สุดสำหรับกองทัพเมียนมา”

ขณะเดียวกัน สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา เผยว่า กลุ่มบุกค่ายทหารแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนไทย และฆ่าคนไป 10 คน ซึ่งมีทหารยศพันโทคนหนึ่งรวมอยู่ด้วย

ส่วนที่กรุงเนปิดอว์ ก็มีการเดินสวนสนามของกองทัพ และพบว่ามี 8 ประเทศส่งตัวแทนมาร่วมงานดังกล่าว ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าประเทศเหล่านี้กำลังส่งสัญญาณยอมรับทหารเมียนมาว่าเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมหรือไม่? ซึ่ง 8 ประเทศดังกล่าวได้แก่ รัสเซีย, จีน, อินเดีย, ปากีสถาน, เวียดนาม, ลาว และไทย