เห็นผล!! เกษตรกรยะลา “ทำนา 1 ไร่ได้เงิน 1 แสน” เตรียมขยายพื้นที่เพิ่ม

วันที่ 11 มีนาคม 2560 เกษตรกรในพื้นที่ ม. 1 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา มีรายได้ใช้จ่ายในครัวเรือนเพิ่ม หลังเข้าร่วมโครงการทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน ตามแนวทางพระราชดำริ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับ เกษตรทฤษฎีใหม่ โดยแบ่งเนื้อที่ 1 ไร่ ซึ่งปลูกข้าวเพียงอย่างเดียวกว่า 10 ไร่ หันมาทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกทั้งพืชไร่ พืชสวน เลี้ยงปลา หลัง 6 เดือน มีผลผลิตขาย รายได้เพิ่ม เตรียมขยายพื้นที่เข้าร่วมโครงการเพิ่ม

   นายยูนุ มะแว เกษตรกร ม. 1 เปิดเผยว่า เมื่อก่อนปลูกข้าวทำนาเพียงอย่างเดียวในเนื้อที่ กว่า 10 ไร่ พอช่วงปลายปี 2559 ได้เข้าร่วมโครงการ ทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน โดยการสนับสนุนของเกษตรตำบลและได้ไปอบรม หลังจากนั้นก็กลับมาทำในพื้นที่นา 1 ไร่ของตนเอง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงวันนี้ปลูกทั้งพืชผักสวนครัว ตะไคร้ พริก มะเขือ ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักกวางตุ้ง พืชไร่ อ้อย สัปปะรด พืชสวน กล้วยไข่ กล้วยหอม มะพร้าว มะละกอ ฯลฯ รวมทั้งเลี้ยงปลาทับทิม ปลานิล ปลาดุก ในร่องน้ำ ร่วมกับการปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง  ผลผลิตที่เก็บได้จะนำไปขายที่ตลาดเกษตร ของสำนักงานเกษตร จ.ยะลา อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ในทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี รายได้เฉลี่ยครั้งละประมาณ 400 บาท อยู่ได้ ทำแล้วได้ผลผลิตดี มีรายได้เพิ่ม

 

    ด้านนายวิทยา กี่เส้ง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรประจำ ต.บุดี กล่าวว่า การดำเนินงานนำร่องในชุดแรกของสำนักงานเกษตร จ.ยะลา โดยมีเกษตรกร ซึ่งทางสำนักงานเกษตร ได้คัดเลือกมาจากเกษตรกรผู้ทำนา เข้าร่วมโครงการ 10 ราย เกษตรกรเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2559 จนกระทั่งปัจจุบัน ทำการปลูกพืชในพื้นที่ทำนา มีทั้งพืชผัก ไม้ผล พืชไร่ ส่วนร่องตรงกลางก็จะเลี้ยงปลา สำหรับพื้นที่ดำเนินงาน ในปีนี้ได้ผลดี เกษตรกรมีความพึงพอใจ ส่งผลให้เกษตรกรยอมรับว่า โครงการ 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน สามารถก่อเกิดรายได้แก่ครัวเรือนได้ใน 6 เดือน ไม่ถึงกับร่ำรวย แต่พอมีพอกินมีเงินเก็บ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ส่วนใหญ่ก็อยากจะต่อยอดทำเพิ่ม ส่วนเกษตรกรรายใหม่ ก็อยากจะเข้าร่วมโครงการด้วย แต่ทั้งนี้ก็จะต้องรอทางหน่วยงานราชการมาสนับสนุน ขณะที่เกษตรกรบางส่วน ที่ไม่รอก็ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว โดยในพื้นที่ ม.8 จะมีเกษตรกรดำเนินการในโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่

 

     โดยทางสำนักงานเกษตร จ.ยะลา ได้ให้การส่งเสริม สนับสนุน โครงการ 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน ในช่วงเริ่มต้นจะมอบเมล็ดพันธุ์ข้าว มะพร้าวน้ำหอม กล้วย เมล็ดพันธุ์ผัก ให้เกษตรกรครั้งเดียว พอเกิดรายได้เกษตรกรก็จะต่อยอด นำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักในการปลูกของตนเองต่อไป ส่วนเงินอีกส่วนหนึ่งก็จะนำไปใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งนอกจากโครงการ 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม อย่างยั่งยืนแล้ว ก็ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนด้วย เนื่องจากเกษตรกรจะมีพืชผักไว้รับประทาน โดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้ออีกด้วย

 

Cr. ภาพ/ข่าว : สทท.ยะล