ห้ามแก้รธน.”ศรีสุวรรณ” จ่อ ร้อง ป.ป.ช. เชือด”ส.ส.-สว.”หากยังคิดโหวตวาระ 3

เลขาฯองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์เตือน สมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ห้ามเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระสาม ชี้หากไม่ฟัง จะใช้อำนาจตามกฎหมายดำเนินการ

วันที่ 13 มี.ค. 64 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง “เตือนสมาชิกรัฐสภาใดโหวตรับแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 จะร้อง ป.ป.ช.เอาผิดทันที” โดยมีเนื้อหาระบุว่า

“ตามที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ปัญหาเกี่ยวกับอำนาจ และหน้าที่ของรัฐสภา ในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตาม ม.256 (1) ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติ “เสียก่อน” ว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต่องให้ประชาชนลงมติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่งนั้น

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งชัดไว้แล้วโดยไม่จำต้องตีความให้เกิดข้อยุ่งยากอีกว่า แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่นั้นจะต้องทำประชามติก่อน ถ้าประชาชนเห็นด้วยจึงจะมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วก็ต้องนำไปทำประชามติอีกครั้ง ไม่มีอะไรซับซ้อนหรือยุ่งยากอะไรเลย

ทว่ากลับมีสมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล พยายามที่จะตีความให้เกิดความสับสนเพื่อผลักดันให้มีการลงมติผ่านวาระ 3 ของการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256 (1) ที่ ค้างอยู่ในรัฐสภาขณะนี้ ทั้งๆ ที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นเกิดขึ้นสืบเนื่องจากประธานรัฐสภาส่งเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256 (1) ที่ผ่านวาระ 2 มานั่นเอง

ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น หากสมาชิกรัฐสภาท่านใดฝ่าฝืน ด้วยการโหวตให้ความเห็นชอบญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256(1) ในวาระ 3 ที่กำหนดขึ้นในสัปดาห์หน้านี้แล้วไซร้ ย่อมเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ ตาม กฎหมาย ป.ป.ช.2561 และ เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 2 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 อย่างร้ายแรง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไม่ปล่อยเลยไป โดยจะนำความไปร้องเอาผิดผู้ที่กระทำการฝ่าฝืนเหล่านั้น ตามครรลองของกฎหมายต่อไป ขออย่าได้ท้าทายกฎหมายสูงสุดของประเทศ เดี๋ยวเจอกัน”