“อนุทิน-สุพัฒนพงษ์” ผนึกกำลัง เปิดโครงการ”101วัน จากแสงแรกสู่โรงพยาบาลไฟจากไฟฟ้า” พร้อมเร่งระดมทุนจากทุกภาคส่วน สนับสนุน โดยได้รับน้ำใจ เบื้องต้น 31 กว่าล้านบาท
โครงการพลังงานสะอาด ภายใต้กิจกรรม “101วัน จากแสงแรกสู่โรงพยาบาลไฟจากไฟฟ้า” ในแคมเปญ ในแคมเปญ Clean Energy for Life : ใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน ซึ่งจัดขึ้นที่ โรงพยาบาลไทรน้อย จ.นนทบุรี วันที่ 4 มี.ค.64 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ร่วมกันเป็นประธาน โดยมีนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ กรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท ตัวแทนจาก 8 โรงพยาบาล บุคคลากรด้านสาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กลุ่มศิลปินจากแกรรมี นำโดย นางบุษบา ดาวเรือง จากคลื่น”กรีนเวฟ” เข้าร่วมงาน โดยได้รับเงินบริจาคเบื้องต้นจำนวน กว่า 31 ล้านบาท
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังผลิต 100 กิโลวัตต์ ที่ติดตั้งให้กับโรงพยาบาล จะสามารถช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลได้ถึงเดือนละประมาณ 60,000 บาท ดังนั้นในระยะเวลา 1 ปี โรงพยาบาลจะสามารถลดภาระค่าไฟฟ้าได้ราว 720,000 บาท โดยแผงโซลาร์เซลล์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปี จึงสามารถช่วยโรงพยาบาลลดภาระค่าไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 18 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายจะดำเนินการทั้งหมด 77 โรงพยาบาล 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการขยายไปพื้นที่อื่นๆ เช่น ชุมชน และ โรงเรียน ในพื้นที่ห่างไกลด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในแต่ละปีโรงพยาบาลมีภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งโครงการความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาล และสามารถนำงบประมาณรายจ่ายค่าไฟฟ้าที่เหลือจ่ายจากการจ่ายค่าไฟฟ้าน้อยลงไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น การซื้ออุปกรณ์การแพทย์ จัดหาเวชภัณฑ์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ และสนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศให้มีความพร้อม ทั้งต่อสถานการณ์โควิด-19 และการบริการทั่วไปให้กับประชาชน ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
“ประเทศไทย เรามีแสงแดด ส่องสว่างตลอดแทบทั้งปี ต่างจากชาติอื่นๆ เช่นบางประเทศในยุโรปที่แทบจะหาแสงสว่างไม่ได้ ดังนั้นการนำแสงแดด ซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ และถือเป็นพลังงานสะอาด มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อุปกรณ์ที่ใช้ลงทุนติดตั้งระบบ โซลาร์ รูฟ ใช้งบประมาณไม่มากมาย มีรายได้ 7-8 แสนบาทต่อปี ลงทุนไป3ล้านบาท แต่ภายในเวลา3ปี คืนทุน ที่สำคัญ ในอนาคตเราไม่ต้องใช้พลังงานจากฟอสซิล ซึ่งจะสร้างมลภาวะต่างๆ ให้กับโลกเรา โดยหันมาใช้พลังงานสะอาดจากแสงแดด จะช่วยสร้าง สภาพแวดล้อมให้โลกเราะสอาด คนเราจะมีสุขภาพดี และวันนี้ ผมถือเป็นมิติใหม่ให้พวกเราตื่นตัวช่วยกันลดมลพิษ ลดโลกร้อน ให้ประเทศ เจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง” นายอนุทิน กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ก็ได้กำหนดเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้ได้ร้อยละ 37 ภายในปี พ.ศ. 2580 โดยจะสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงพลังงานสะอาด ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืนให้กับประเทศ โดยกระทรวงพลังงาน มีนโยบายสนับสนุน โครงการ “101วัน จากแสงแรกสู่โรงพยาบาลไฟจากฟ้า ซึ่งจะได้ประโยชน์ 3 ด้านคือ 1.ประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับโรงพยาบาล 2.พัฒนาพลังงานสะอาด แก้ปัญหาโลกร้อน และ 3 ให้คณะกรรมการพลังงาน เปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริจาคสันบสนุโครงการ ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย 1420289977 จำนวน 77บาทต่อครั้ง
“เม็ดเงิน77บาท ดูไม่มากแต่ ถือว่าเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะขยายผลต่อไป ขอให้ช่วยกันสื่อสาร เรื่องดีๆอย่างนี้ต่อไปเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าคนไทยก็มีน้ำใจ เราจะเพิ่มจากแสนเป็นล้านและเป็นหลายๆล้านลำพังตัวผมเอง ถ้าจะใช้เวลาโทรศัพท์ติดต่อจากหน่วยงานต่างๆเชื่อว่าภายในเวลา20นาทีทำได้ แต่ผมอยากเห็นคนไทยช่วยกันสนับสนุนซึ่งจะทำให้เราเดินหน้าได้อย่างยิ่งยืน” รมว.พลังงาน กล่าว