“สัณหพจน์” ชู “4×4” ขอ“คนละครึ่ง” แผนคว้าชัยเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีฯ เทคะแนน ขอโอกาสให้ “อาญาสิทธิ์” เบอร์ 4 ทำงาน หวังเกิดปรากฏการณ์ “คนละครึ่ง” จำนวน ส.ส.พปชร. เพิ่มเป็น 4 คน
วันที่ 1 มี.ค.64 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้ประสานงานการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.3 จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ได้มีนโยบายเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คือ “เราชนะ” และนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในโครงการ “คนละครึ่ง” ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองให้กับพี่น้องประชาชนได้ส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมาพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน 3 คน จากทั้งหมด 8 เขตการเลือกตั้ง ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่มีการเลือกตั้งซ่อมเขตเลือกตั้งที่ 3 เพื่อเลือกตั้งตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส. โดยมี นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 4 ได้เสนอตัวเป็นตัวเลือกให้กับพี่น้องประชาชน
รองโฆษกพรรค พปชร. กล่าวต่อว่า สำหรับนายอาญาสิทธิ์ ถือเป็นบุคคลที่ใจซื่อ มือสะอาด มีความมุ่งมั่น จริงจัง ในการทำงาน มีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนา พื้นที่เลือกตั้งเขต 3 ซึ่งได้แก่ อ.ชะอวด อ.พระพรหม อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.จุฬาภรณ์ “4 อำเภอ” ซึ่งทุกพื้นที่ถือว่ามีความสำคัญที่จะต้องอาศัยคนที่มีความจริงจัง เข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งตนมั่นใจว่า หากนายอาญาสิทธิ์ ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน จะสามารถทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน และนำนโยบายของรัฐบาลมาสู่พื้นที่เขต 3 ได้อย่างแน่นอน
ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคน้องใหม่ใน จ.นครศรีฯ มี ส.ส.เพียง 3 คน จาก 8 เขต แต่เกือบ 2 ปี ได้ทำผลงานเป็นที่ประจักษ์ไปแล้วบางส่วน ซึ่งต่างจาก 30 ปีที่ผ่านมา และต่อจากนี้ ส.ส.ของพรรค จะเดินหน้ารับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความเดือดร้อน อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขับเคลื่อน จ.นครศรีฯ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยหากได้จำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นเป็น 4 คน ก็จะเท่ากับ ส.ส.ของปชป. เรียกว่า “คนละครึ่ง” เท่ากับ “4×4” ซึ่งจะช่วยเพิ่มคนทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายสัณหพจน์ กล่าวและว่า ตนขอฝากให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งตัวแทนของพี่น้องประชาชน คนที่จะสามารถทำงานได้จริง ในวันที่ 7 มี.ค.64
