โฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เผย ศาลอุทธรณ์ จำคุกร้อยตำรวจเอก 2 นาย สิบตำรวจโท 1 นาย คนละ 10 ปี คดียัดยาบ้า เรียกเงิน 500,000 บาท
นายโกศลวัฒน์อินทุจันทร์ยง โฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค9 ให้ข้อมูลว่า เหตุเกิดที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส จำเลยทั้งสามเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีหน้าที่สืบสวน จับกุม ผู้กระทำผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2562 จำเลยทั้งสามร่วมกันตั้งด่านตรวจค้นบริเวณตรงข้ามกับโรงพยาบาลสุไหงปาดี นางสาวสารีดา บินบือเฮง ผู้เสียหายกับพวกขับรถยนต์กระบะ ภายในรถยนต์บรรทุกสะตอดอง มะนาว และผ้าปาเต๊ะ 40 ผืนๆ ละ 400 บาท จากประเทศมาเลเซีย มาถึงบริเวณดังกล่าว จำเลยทั้งสาม ร่วมกันทำการตรวจค้นแล้วเชิญผู้เสียหายกับพวกพร้อมกับยึดรถยนต์ไปสถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดี ขณะที่จำเลยทั้งสามควบคุมผู้เสียหายกับพวกเข้าไปภายในห้องสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดี จำเลยทั้งสามปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตใช้อำนาจครอบงำโดยข่มขืนใจหรือจูงใจให้ผู้เสียหายมอบเงิน 500,000 บาท แก่จำเลยทั้งสาม โดยอ้างว่าค้นพบเฮโรอีน 5 ถุง ที่ฝากระโปรงรถ สิ่งของผิดกฎหมายภายในรถคันดังกล่าว ซึ่งความจริงแล้วการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
จำเลยทั้งสามร่วมกันควบคุมตัวผู้เสียหายไว้ภายในห้องสืบสวนเป็นการหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จากนั้นจำเลยทั้งสามให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ติดต่อมารดาของผู้เสียหาย เพื่อขอเงินโดยมารดาของผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหาเพื่อนให้นำทองคำรูปพรรณมามอบให้ผู้เสียหายเพื่อนำไปขายและได้นำเงินมา 236,000 บาท และมารดาของผู้เสียหายให้เพื่อนนำเงินสด 130,000 บาท มามอบให้ผู้เสียหาย รวมทั้งมารดาของผู้เสียหายยังโอนเงินสดอีก 34,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารให้ผู้เสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 400,000 บาท เพื่อไปมอบให้แก่จำเลยทั้งสามเพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้เสียหายกับพวกไป เหตุเกิดที่ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส อัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสาม
การที่จำเลยได้กระทำเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตรา ดังนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90, 148, ๑๕๗, 310ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 10 ปี ส่วนข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยทั้งสามยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
ศาลอุทธรณ์ แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ว่า พิพากษายืน ตามศาลชั้นต้นจำคุกคนละ 10ปี จำเลยทั้งสามก็ยังมีสิทธิ์ยื่นฎีกาตามกฎหมายต่อไป
คดีนี้เริ่มต้นจาก ญาติของผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อฝ่ายปกครอง ขอความเป็นธรรม ที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี และนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี จึงขอให้เป็นตัวอย่างในการใช้สิทธิโดยชอบ หรือร้องเรียน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด ตำรวจที่ดียังมีและพึ่งได้ หลายคดีก็เกิดจากตำรวจรับแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจที่ประพฤติมิชอบ ประชาชนต้องช่วยกันนะครับเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น เช่นคดีนี้
—-
ศาลอุทธรณ์คดีทุจริตฯยืนจำคุก10 ปี 3 ตำรวจสภ.สุไหงปาดี ยัดยารีดเงิน5แสน – สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สปยธ.)
ศาลอุทธรณ์คดีทุจริตฯยืนจำคุก10 ปี 3 ตำรวจสภ.สุไหงปาดี ยัดยารีดเงิน5แสน