กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงานประชุม วิชาการ หลังจากทรงบาดเจ็บข้อพระบาท

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดงาน Thailand-Japan Student Science Fair 2020 รูปแบบออนไลน์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศได้ชื่นชมพระบารมี หลังจากทรงบาดเจ็บที่ข้อพระบาททั้งข้างซ้ายและข้างขวา

วันที่ 24 ก.พ.63 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงเปิดงานประชุม วิชาการ Thailand – Japan Student Science Fair 2020 (T – SSF 2020) แบบออนไลน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศได้ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างเป็นทางการหลังจากที่ทรงพระประชวรทรงบาดเจ็บที่ข้อพระบาททั้งข้างซ้ายและข้างขวา และทรงรับการผ่าตัดรักษาข้อพระบาททั้งสองข้าง เมื่อวันพุธที่ 20 มกราคม พุทธศักราช 2564 ที่ผ่านมา และได้เสด็จฯกลับไปประทับ ณ วังสระปทุม เมื่อวันศุกร์ ที่ 5 กุมภาพันธ์โดยคณะแพทย์ ฯ ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทาน ให้ทรงงดพระราชกรณียกิจต่อไปอีกระยะหนึ่ง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จลงณห้องประชุมวังสระปทุมทรงเปิดงานThailand-JapanStudentScienceFair2020ในรูปแบบออนไลน์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบโดยถ่ายทอดสดเพื่อสื่อสารกับนักเรียนและนักวิทยาศาสตร์ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นเป็นการปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด19

โอกาสนี้มีพระราชดำรัสเปิดงานพร้อมกับได้ทอดพระเนตรพิธีเปิดแบบออนไลน์และการแนะนำโรงเรียนที่ร่วมเสนอผลงานโดยมีโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยตรังและมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นสถานที่หลักในการรับสัญญาณออนไลน์จากที่ต่างๆถ่ายทอดให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้รับชมมีนายขจรศักดิ์เจริญโสภาผู้ว่าราชการจังหวัดตรังนายธัชชเวชว์จันทร์สุขศรีผอ.สพม.ตรังกระบี่ดร.สุวณีอึ่งวรากรผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยตรังเข้าร่วมพิธีเปิดแบบออนไลน์ โดยกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพจัดงาน ระหว่างวันที่24-25กุมภาพันธ์2564เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการและศิลปวัฒนธรรมผ่านการนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์และทำกิจกรรมภายใต้แนวคิด”SeedingInnovationthroughFosteringThailand-JapanYouthFriendship”รวมทั้งเพื่อสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพสูงทางด้านวิทยศาสตร์และเทคโนโลยีที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

สำหรับกิจกรรมหลักคือการนำเสนอโครงงานวิชาคณิตศาสตร์โครงงานฟิสิกส์โครงงานวิทยาศาสตร์กิจกรรมศึกษาแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลผ่านระบบออนไลน์กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมโดยผ่านการศึกษาดูงานเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า400คนประกอบด้วยผู้บริหารครูและนักเรียนจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นจำนวน53โรงเรียน