สิ้นแล้วนักข่าวอาวุโส “เจ้ยุ” ยุวดี ธัญญศิริ สูญเสียครั้งสำคัญของวงการสื่อมวลชนไทย

นางยุวดี ธัญญสิริ หรือเจ๊ยุ นักข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้เสียชีวิต เมื่อเวลา ๓.๓๐ น.วันที่ 10 มีนาคม ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ  หลังจากเข้ารักษาตัวเมื่อวันที่ 5 มีนาคม วันนักข่าว นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของวงการสื่อมวลชนไทย

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนพ้องพี่น้องสื่อมวลชน มา ณ โอกาสนี้ด้วย

จักรกฤษ เพิ่มพูน อดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เขียนข้อความระบุว่า เส้นทางของนักข่าวอาวุโสท่านนี้ จะเป็นตำนานให้คนหนังสือพิมพ์รุ่นหลังจดจารไว้ในความทรงจำตลอดไป

หนังสือเส้นทาง คนหนังสือพิมพ์ บอกเล่าก้าวแรกในชีวิตคนข่าวของเจ๊ยุ ไว้ว่า

“เข้ามาเป็นนักข่าวปี 2511 อาชีพนี้เหมือนเราได้รู้อะไรก่อนคนอื่น เราเป็นคนตรงไปตรงมา อยากให้ประชาชนรู้อะไรเท่ากับเรา ไม่ใช่ให้ประชาชนรู้ในสิ่งที่บิดเบือน หรือไม่เป็นความจริง ตอนนั้นเราคิดว่าเราเป็นคนรุ่นใหม่ ที่จบการศึกษาทางนี้โดยตรง เมื่อเข้ามาทำงานด้านนี้ ตอนที่เข้ามาใหม่ๆ ยังนึกเลยว่าจะหาข่าวได้ทุกวันหรือเปล่า”
เจ๊ยุบอกกับจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง ถึงแรงบันดาลใจ ที่เลือกอาชีพนี้หลังจากจบวารสารศาสตร์ รุ่นแรก ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จากวันนั้นเป็นต้นมา จนถึงวันสุดท้ายในชีวิต เจ๊ยุ ก็ยังคงเป็นคนหนังสือพิมพ์ ที่สายเลือดเข้มข้นไม่เคยจางไปแม้เพียงนาที
วันนี้ เจ๊คงไม่มีโอกาสลุกขึ้นมาอ่านข้อความของพวกเราที่ส่งไปให้กำลังใจเจ๊อีก

ข้อความสั้นๆ ในสมุดบันทึกที่พวกเราเขียนให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ๊ยุ รวมทั้งข้อความนี้ ถูกส่งไปวางไว้หน้าห้อง ชั้น 17 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลพระมงกุฏ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รอเวลาที่เจ๊ยุจะตื่นจากหลับใหล มาอ่าน มาพูด มาคุย กลับมาเป็นเจ๊ยุคนเดิม เหมือนที่เคยเป็น เหมือนที่พวกเราเคยเห็นตลอดระยะเวลาอันยาวนาน แต่น่าเสียใจที่โอกาสเช่นนั้นไม่ได้เกิดขึ้น

ผมเริ่มทำข่าวการเมืองเมื่อราว 40 ปีก่อน คุณยุวดี ธัญญสิริ หรือที่แวดวงนักข่าว นักการเมือง เรียกว่า “เจ๊ยุ” ก็ประจำการในตำแหน่งนักข่าวอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนหน้านั้นแล้ว กิตติศัพท์เลื่องลือ เรียกกันว่าเป็น “เจ้าแม่ทำเนียบ” ผู้จัดระเบียบ “รังนกกระจอก” เคร่งครัดหลักการ อบรมบ่มเพาะนักข่าว ที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง แต่งเนื้อแต่งตัวไม่เรียบร้อย ก็ยาวนานพอๆกับที่เจ๊ยุประจำการอยู่ที่นั่น

นักข่าวการเมืองอายุ 20 ต้นอย่างผม เดินเก้ๆกังๆ ทำข่าวในทำเนียบ ก็ยังเคยถูกเจ๊ยุ เอ็ดเอาก็หลายครั้ง ความรู้สึกในตอนนั้น ประกอบกับใบหน้าที่เรียบเฉยของเจ๊ ทำให้คิดว่ายายคนนี้ดุจัง ไม่ค่อยกล้าเฉียดใกล้

ผมเป็นนักข่าวการเมืองประจำสายสภา จะไปทำเนียบบ้างเป็นครั้งคราว แล้วแต่ประเด็นข่าวที่ต้องไปตาม จึงไม่ได้สนิทกับเจ๊มากนักในตอนต้น พบเจอกันคราวใด คล้ายรังสีอำมหิตของเจ๊จะแผดเผาผมเป็นจุณ เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง หลีกได้เป็นหลีก นานหลายสิบปีจากนั้น จึงได้มีโอกาสคุ้นเคยกับเจ๊ และได้พบความจริงว่าตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่าน ผมคิดผิดมาตลอด

เมื่อได้มีโอกาสสนทนากันหลายครั้ง ทั้งที่เป็นทางการในบทบาทกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือร่วมอภิปรายเวทีเดียวกัน และไม่เป็นทางการบ่อยครั้งในระยะหลังเมื่อเจ๊ ถูกประกาศิตห้ามเข้าทำเนียบ แต่วิถีชีวิตเจ๊ยังเป็นเหมือนปกติ ตื่นเช้ามาทำงาน มานั่งในห้องสมุด สมาคมนักข่าวฯ บ่ายแก่ๆ พลขับก็รับกลับบ้าน

ตัวตนของเจ๊ คือนักข่าวโดยสายเลือด หยิ่งทะนงในเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นนักข่าว และเป็นคนที่มีอัธยาศรัยไมตรี มีความเมตตาสูง

ได้มีโอกาสพูดจากันเป็นทางการครั้งสุดท้าย บนเวทีธรรมศาสตร์ เมื่อ 6 ตุลา 2559 แต่พบกันทุกครั้ง ที่ห้องสมุดสมาคมนักข่าว ยามที่แวะไปสมาคม หลายครั้งได้มีโอกาสขอความรู้จากเจ๊ในฐานะผู้อาวุโส ผู้ผ่านประสบการณ์ทำข่าวการเมืองมาอย่างโชกโชน

ราวสัปดาห์ก่อน เจ๊เล่าเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับตึกไทยคู่ฟ้า ว่านายกรัฐมนตรียุคเก่าก่อน ไม่เคยมีใครใช้ตึกนี้เป็นที่ทำงาน เพราะนี่คือบ้านไม่ใช่ที่ทำงาน ที่ทำงานของนายกรัฐมนตรีคือตึกบัญชาการ ซึ่งเป็นที่ทำงานของรองนายกรัฐมนตรีวันนี้

เป็นหนึ่งในหลายเรื่องราว ที่ได้เก็บรับจากเจ๊ยุ นักข่าวมากประสบการณ์คนนี้

โหน่ง ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม สายเลือดคนหนังสือพิมพ์ แห่งโพสต์ ทูเดย์ ถ่ายทอดคำบอกเล่าของ เสธ.ยักษ์ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม สามีเจ๊ยุ เมื่อเขาไปเยี่ยมเจ๊ยุเมื่อวันก่อนว่า ช่วงที่เจ๊ไม่ได้เข้าทำเนียบ มาใช้ชีวิตแต่ละวันที่สมาคมนักข่าว เจ๊มีความสุขมาก ไม่ต้องรีบไปทำงาน จากที่ออกจากบ้าน 6 โมงเช้าไปทำเนียบ ก็เปลี่ยนมาเป็น 8.30 น. ไปอ่านหนังสือพิมพ์ที่สมาคมแทน กลับบ้านก็ตอนบ่ายสาม

โหน่งยังบอกว่า เสธ.ยักษ์ เล่าว่า ที่สำคัญ เจ๊ได้พูดคุยกับนักข่าวอาวุโสสมัยทำข่าวด้วยกัน เจอเพื่อนเก่าๆ น้องๆนักข่าวที่สมาคม ทำให้ไม่เครียด และแฮปปี้ต่างจากตอนที่อยู่ทำเนียบ

วันนี้ แวะไปสมาคม เก้าอี้ตัวเดิมในห้องสมุดที่เจ๊ เคยนั่งทุกเช้าว่างเปล่า แต่ภาพความทรงจำยังติดตรึง คล้ายเจ๊ยังอยู่ที่นั่นตลอดเวลา

เจ๊ยุจากไปแล้ว ด้วยกฎธรรมชาติแห่งชีวิต แต่เจ๊ยุจะไม่มีวันจากไปจากหัวใจพวกเราตลอดกาล

ขอบคุณ จักรกฤษ เพิ่มพูน