2,000บาทเข้าวันแรกวุ่น ‘เป๋าตัง’ ล่มซ้ำซาก ชาวบ้านโวย ‘เราชนะ’ ใช้ไม่ได้

ความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะสำหรับกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และการโอนวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกให้แก่ประชาชนที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ ลงทะเบียนแล้ว 3.5 ล้านคน คาดจะมีคนลงทะเบียนทั้งหมด 2.5 ล้านคน

เช้าวันนี้ (18 กุมภาพันธ์) จากการตรวจสอบหน้าธนาคารกรุงไทยหลายแห่ง พบว่า ยังมีคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและลงทะเบียนเราชนะไม่สำเร็จ เดินทางไปลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยจำนวนมากทำให้หน้าธนาคารหลายแห่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความแออัด

ขณะเดียวกัน วันแรกของโครงการเราชนะ ที่จะมีเม็ดเงินเข้า 2,000 บาท สำหรับคนที่ผ่านการอนุมัติ พบว่า ตั้งแต่เช้าแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ผู้ถือแอพเป๋าตัง ที่รอใช้เงินไม่สามารถใช้ได้ ต้องผิดหวัง และโวยวายกระทรวงการคลังที่ปล่อยให้เกิดปัญหาซ้ำซาก

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ (โครงการฯ) สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง ระหว่างวันที่ 15 – 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 327,066 คน (ข้อมูล ณ เวลา 15.30 น.) ทั้งนี้ ประชาชนในกลุ่มดังกล่าวที่สนใจและประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปลงทะเบียนที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ด้วยตนเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน อันจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง และป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 และไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ์

โฆษกกระทรวงการคลังเน้นย้ำว่า สำหรับกลุ่มประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง (กลุ่มประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลฯ) และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com (กลุ่มประชาชนทั่วไปฯ) ที่ตรวจสอบสถานะแล้วพบว่าผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเราชนะจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2564) จำนวน 2,000 บาท ทั้งนี้ ประชาชนทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวสามารถยืนยันการใช้สิทธิ์ผ่านแถบ (Banner) “เราชนะ” ที่ปรากฏอยู่ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และจะได้รับวงเงินสิทธิ์เพิ่มเป็นรายสัปดาห์ทุกวันพฤหัสบดีจนวงเงินสิทธิ์ครบ 7,000 บาท โดยสามารถสะสมวงเงินสิทธิ์ได้ และใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

สำหรับกลุ่มประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลฯ และกลุ่มประชาชนทั่วไปฯ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น แต่ไม่สามารถขอรับสิทธิ์โครงการฯ ได้ เนื่องจากคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการไม่เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 กรณีข้าราชการการเมือง ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐที่รับค่าตอบแทนโดยตรงจากหน่วยงานของรัฐ และไม่มีลักษณะของงานที่เป็นอาสาสมัครหรือเป็นการจ้างรายวัน รวมถึงผู้รับบำนาญปกติ สามารถสละสิทธิ์ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากผู้ปฏิบัติงานในหน่วยของรัฐที่มีลักษณะงานเป็นอาสาสมัครหรือการจ้างรายวัน และได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐโดยตรง ผ่านเกณฑ์การคัดกรองของโครงการฯ สามารถยืนยันการใช้สิทธิ์ผ่านแถบ (Banner) “เราชนะ” ที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้

ทั้งนี้ โครงการฯ ได้มีการโอนวงเงินสิทธิ์ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (กลุ่มผู้ถือบัตรฯ) จำนวน 13.69 ล้านคน ไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยจากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 กลุ่มผู้ถือบัตรฯ มียอดการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วมากกว่า 14,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่า จะมีผู้ลงทะเบียนโครงการเราชนะ สำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ประมาณ 2.5 ล้านคน

ขณะทึ่เช้าวันนี้ (18 กุมภาพันธ์) ยังมีคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและลงทะเบียนเราชนะไม่สำเร็จ เดินทางไปลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก