ถึงขั้นยุบพรรค!! ปชป.จ่อฟ้องพปชร.ใส่ร้ายบิดเบือน ชงศาลฯฟันยุบพรรค

ศึกเลือกตั้งซ่อม”เมืองคอน”นครศรีธรรมราช ส่อเค้าเดือด ปชป. เตรียมฟ้อง พปชร. ใส่ร้ายบิดเบือน ทำให้เสียคะแนนนิยม ชี้ โทษหนักถึงขั้นยุบพรรค

วันที่ 14 ก.พ. 2564 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ เฟซบุ๊กไลฟ์ จากสภากาแฟศูนย์เรียนรู้ประชาธิปไตย บ้านสำนักขัน อำเภอจุฬาภรณ์ กล่าวถึง การลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต3 จ.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อพรรคพลังประชารัฐ ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมด้วย ก็ถือว่าเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน จึงจำเป็นต้องต่อสู้แข่งขันตามวิถีทางประชาธิปไตย และเมื่อพรรคแกนนำของรัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงมารยาททางการเมืองก็เป็นจิตสำนึกของแต่ละพรรค ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้พิจารณาและตัดสินได้

จากการแถลงข่าวของกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ห้องแถลงข่าวอาคารรัฐสภา มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งแทนไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม เพราะ ส.ส.คนเดิมถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากทุจริตการเลือกตั้ง ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัครลงแข่งอีก ถ้าเป็นพรรคพลังประชารัฐก็คงไม่ส่งผู้สมัคร อีกทั้ง ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเป็นที่สอง จึงมีความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัคร เพราะถ้าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเราจะได้ที่หนึ่งได้เป็น ส.ส.ไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ ส.ส.นครศรีธรรมราช 4 ต่อ 4 คนเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนโครงการคนละครึ่ง”

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า “ไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม แต่เป็นการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากถูกศาลติดสินว่าทุจริตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงมากในทางการเมือง การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้ที่สอง เรายืนยันได้ว่า ถ้าเขาไม่ทุจริตเราก็ได้ที่หนึ่งไปแล้ว และเชื่อว่าจะไม่เป็นรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคประชาธิปัตย์จะได้ คะแนนเสียงพรรคร่วมก็เท่าเดิมเพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน”

นายเทพไท ระบุว่า ข้อความทั้งหมดเป็นข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือนใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ประชาธิปัตย์เสียหาย และเป็นการกระทำที่อยู่ในระหว่างมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งซ่อมแล้ว มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงผู้สมัครและพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง เป็นการกระทำผิดตาม พรป.การเลือกตั้ง ส.ส. ตนจะเสนอให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณาแจ้งความดำเนินคดี ต่อศาลอาญา และยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อพิจารณาวินิจฉัยการกระทำของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค อยู่ร่วมในการแถลงข่าวด้วย แต่ไม่ได้ห้ามปราม หรือทักท้วง ถือว่า เป็นการรู้เห็นเป็นใจการกระทำดังกล่าวด้วย ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้ และระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ หากมีการใส่ร้าย บิดเบือน พาดพิงทำให้ตน และผู้สมัครหรือพรรคประชาธิปัตย์ได้รับความเสียหาย ก็จะแจ้งความ ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป