โฆษกภูมิใจไทย ขอให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เลิกเล่นการเมือง ระบุ ไลฟ์สด วัคซีนพระราชทาน ไม่ตรงข้อเท็จจริง และน่าเคลือบแคลง
วันที่ 20 ม.ค.นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่องดรามาของวัคซีนว่า “ผมไม่มีโอกาสได้ดู live ในตำนาน แต่ได้มาดูย้อนหลัง มีหลายเรื่องที่คลางแคลงใจว่าเป็นไปอย่างที่เขาว่าจริงหรือไม่ เมื่อวานทั้งวันจึงได้นั่งอ่าน นั่งดู ทั้งคำชี้แจงของสาธารณสุข และบทความของหลายท่าน พอสรุปประมวลออกมาได้ว่า
.
1. ประเด็นความล่าช้าของการสั่งจองวัคซีน ผู้ live บอกว่า หากเชื่อเขาตั้งแต่แรกเราคงมีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกคน ท่านครับ การระบาดหนักในรอบแรกทั่วโลกเกิดขึ้นช่วงเดือนมีนาคม 2563 นานาประเทศเพิ่งเริ่มคิดค้นวัคซีนเพื่อป้องกันโรค เป็นโรคใหม่ ไม่มีบริษัทไหนเลยที่สามารถการันตีได้ว่าได้ผล 100% และไม่ส่งกระทบข้างเคียงต่อประชาชน การเร่งรีบสั่งซื้อแต่เนิ่นๆ แบบที่ว่าจะกลายเป็นการซื้อของคุณภาพต่ำ และราคาสูง และที่สำคัญที่สุดคือ เอาชีวิตของประชาชนไปเสี่ยง #แบบนี้ใครรับผิดชอบ?
.
2. เคลมว่า นานาประเทศ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปินส์ มีการสั่งซื้อในตัวเลขต่อประชากรที่สูงกว่าไทย นั่นคือตัวเลขที่สั่งจอง และยังไม่ได้ของทันที วัคซีนก็ทยอยส่งให้ประเทศเหล่านั้นเป็นล็อต เหมือนกับประเทศไทย ตัวเลข 21% ของประชากร ที่ท่านอ้างถึง มาจาก 2 ล้านโดส + 26 ล้านโดส = 28 ล้านโดส 1 คนต้องใช้ 2 โดส นั่นคือใช้ได้กับคน 14 ล้านคน #แต่ ครม.ก็มีมติเพิ่มเติมสั่งซื้ออีก 35 ล้านโดส 17.5 ล้านคน เมื่อรวมกับ 14 ล้านคน ตัวเลขจึงไม่ใช่ 21% แต่มากถึงเกือบ 50% #ตัวเลขนี้ทำไมท่านไม่พูดถึง #ท่านไม่แฟร์ #ท่านจงใจบิดเบือนใช่หรือไม่??
.
3. รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างผลิตวัคซีนให้แอสตราเซเนกา และสั่งซื้อจากบริษัทเดียว เดี๋ยวนะ ใจเย็นๆ ก่อน รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เลือกว่าบริษัทใดจะเป็นผู้ผลิตวัคซีนนะ เจ้าของวัคซีน คือ แอสตราเซเนกา เขาเลือกให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นผู้ผลิต ซึ่งมีข้อตกลงว่าผลิตปีละ 200 ล้านโดส วัคซีนทั้งหมดไม่ใช่เป็นของสยามไบโอไซเอนซ์ แต่เป็นของแอสตราเซเนกาซึ่งคือผู้ว่าจ้าง รัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนจากแอสตราเซเนกา ตามข้อตกลง คือ 26 ล้านโดส + 35 ล้านโดส
.
ถามว่าผลิตตั้ง 200 ล้านโดส แบ่งให้คนไทยใช้แค่ 26 ล้านโดส ที่เหลือส่งไปขายที่อื่น เอ้า เห้ยยย ก็เขามีหน้าที่แค่ผลิตตามจำนวนที่แอสตราฯ ให้ผลิต ส่วนเรื่องขายใครเท่าไร เป็นเรื่องของแอสตราฯ?
#แล้วแบบนี้เอื้อให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ตรงไหน??
.
เอื้อตรงที่รัฐบาลสสับสนุนเงินให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เพียงบริษัทเดียวไง เขาว่า เช่นนั้น
.
เอิ่ม ต้องลองไปอ่าน พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนใหม่ครับ รัฐบาลสามารถสนับสนุนบริษัทใดก็ได้หากบริษัทนั้นๆ ได้ทำ MOU กับเจ้าของเทคโนโลยี ในเมื่อสยามไบโอไซเอนซ์ได้ทำ MOU กับแอสตร้าเซเนก้าเรียบร้อย ก็สามารถขอรับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลได้ ก็เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ไม่เห็นมีอะไรพิเศษนี่ครับ
#ท่านต้องการดิสเครดิต บ.สยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อกระทบถึงคนที่ท่านอ้างถึง เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองใช่หรือไม่??
.
วัคซีนพระราชทาน!!! ท่านก็รู้ว่ารัฐบาลใช้งบประมาณซื้อวัคซีนทั้งหมด วาทะกรรมที่ว่าพุ่งเป้าไปที่ไหน และเพื่ออะไร ประชาชนเขาอ่านออกนะ อย่าเอาประเด็นบิดเบือนและทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันฯ ไปสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนอีกเลย รังแต่จะสร้างความสับสนและไม่ได้ช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นแม้แต่น้อย
.
เราคนไทย ควรยินดีมิใช่หรือ ที่เขาเลือกบริษัทของไทยเป็นผู้ผลิตเพื่อกระจายให้ประเทศในภูมิภาคนี้ ทำไมเขาไม่เลือกบริษัทอื่นล่ะ? เพราะบริษัทนี้มีศักยภาพในการผลิตให้เขาอย่างเพียงพอและมีคุณภาพมิใช่หรือ???
.
(บทสัมภาษณ์จากแอสตราเซเนกา ตามอ่านที่เพจ Thailand Vision)
.
สั่งซื้อจากบริษัทเดียว? ก็ไม่ใช่นะ คุณก็พูดเองไม่ใช่หรือ ว่า 2 ล้านโดส มาจากซิโนแวค (ซึ่งซีพีถือหุ้น15%) และหากสั่งซื้อจากซิโนแวคมากๆ คุณก็จะด่าเขาว่าเอื้อประโยชน์ให้ซีพีอีกล่ะสิ!! พ่อคู้นนนนน
.
มากกว่านั้น คุณก็รู้มิใช่หรือว่าการเก็บรักษาวัคซีนยี่ห้ออื่น ไฟเซอร์, โมเดอร์นา มันต้องเก็บที่อุณหภูมิ -70 และ -20 องศาเซลเซียส ซึ่งจะยากมากต่อการลำเลียงขนส่ง แน่นอนเพิ่มราคาต่อโดสให้สูงขึ้น ในขณะที่แอสตราเซเนกา และซิโนแวค เก็บได้ที่อุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศา ทำให้บริหารจัดการได้ง่ายกว่ารึเปล่า??
.
4. เรื่องผลกำไรขาดทุนของสยามไบโอไซเอนซ์ ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะไปขุดคุ้ย ผมสนใจแต่เพียงว่า แอสตราเซเนกาเขามั่นใจว่าบริษัทนี้สามารถผลิตของตามคุณภาพให้เขาได้ก็พอละ
#ไหนว่าทำการเมืองใหม่
บนสถานการณ์แบบนี้ สมควรหรือไม่ที่เอาข้อมูลจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง จินตนาการเอาเองบ้างมาปั่นสังคม ผมว่าหยุดเล่นการเมืองสักพักเถอะ เลอะเทอะไปถึงวัคซีนพระราชทานนู่นนนน hate speach ลดได้ก็ลดเนอะ
.
ผมยืมคำหัวหน้าผมมาใช้สะหน่อย
ถ้าไม่ได้ทำ_พูดอะไรก็ได้หมด
มือไม่พาย_ก็อย่าเอาอะไรราน้ำ”