หมู่บ้านสีชมพู บ้านร่องกล้า-ภูลมโล หนาวจับใจ

จากซากุระ หรือพญาเสือโคร่งต้นเดียวในหมู่บ้าน เมื่อ 10 ปีก่อน อุทยานฯ ได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกป่า บนพื้นที่เสื่อมโทรมภูลมโลและภูขี้เถ้า ต่อมาหลายภาคส่วนได้เข้ามาสนับสนุนการปลูกกลายเป็นป่าซากุระที่งดงามเต็มภูเขา รวมทั้งในหมู่บ้านร่องกล้า

หมู่บ้านสีชมพู ที่หนาวจับใจ
ปุ๊บปั๊บทัวร์ อีกแล้ว
‘แก แก ไปกันเถอะ’ เสียงเพื่อนตัวดี ดังจากปลายสายโทรศัพท์ ดังมาปลุกตั้งแต่ยังไม่ตื่น
‘ไปไหนของมรึง’ ถามแบบสลึมสลือ
‘ไปดูดอกซากูระงัย’
‘เมื่อไหร่’
‘ตอนนี้’
‘อีบร้า’ ด่ามันในใจ สลัดความง่วงออกไป
‘ไปก็ไป’ ไม่ไปตอนนี้ จะไปตอนไหน อากาศหนาวลงมาต่ำกว่า 10 องศา ดอกซากุระ บานจะเต็มพื้นที่แล้ว
จัดแจงลางาน เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแบบรีบๆ ‘ดีนะ’ เป็นสายนักเดินทาง พร้อมเดินทางได้ตลอด กระวีกระวาดไม่นานก็ได้ออกเดินทาง

ระหว่างดอยอ่างขางกับภูลมโล ไปไหนดี ไม่ไกลเกินไป ก็ภูลมโล นี่หละ แต่ใจก็หวั่นๆว่า จะได้เข้าหรือเปล่า ภูลมโล ต้องผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ก่อนหน้านี้ก็มีประกาศห้ามคนจาก 28 จังหวัด ต่อมาก็ประกาศห้ามกางเต้นท์ ตายเอาดาบหน้าละกัน

ผ่านภูทับเบิก สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น ที่แผ่ซ่านเข้ามา คนที่จุดชมวิว บอกว่า อุทยานฯน่าจะปิดแล้ว ในใจก็คิด อุทยานปิดก็นอนภูทับเบิกก็ได้วะ ตอนนั้นค่ำพอดี ถึงหน้าอุทยานฯ บอกว่าไปบ้านร่องกล้า เจ้าหน้าที่ให้เข้าไปโดยไม่ไต่ถาม
จากด่านอุทยานฯ 20 กว่ากิโลเมตร ถึงบ้านร่องกล้า ขึ้นไปยังลานกางเต้นท์ วนดูซักพักก็ได้จุดตรงหัวมุม ลานจอดรถศูนย์พัฒนาราษฎรพื้นที่สูง ของ พพ. อากาศช่วงค่ำ ประมาณ 11 องศา ตกดึกยิ่งหนาว ประมาณ 7-8 องศา น้ำค้างลงแรงมาก เต้นท์แทบเอาไม่อยู่ หนาวจับใจจริงๆ
ตื่นเช้าเห็นแสงเรื่อๆบนภูเขา ผ่านต้นสน 3 ต้น มีสายหมอกเบาบาง ลอยเรี่ยเขา ‘บ้านร่องกล้า’ ถูกล้อมด้วยภูเขา บ้านเรือนของชาวบ้านเป็นพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ที่เอียงตามความชันของไหล่เขา ชาวบ้านที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นชาวม้ง หลังเสียงปืนสงบจากสมรภูมิภูหินร่องกล้า มีการจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านทำกินครอบครัวละ 25 ไร่ มีการนำทหารอาสาและครอบครัวมาอาศัยอยู่กับชาวม้ง ตั้งชื่อ บ้านใหม่พัฒนา ต่อมาด้วยอยู่ในอุทยานภูหินร่องกล้า จึงเรียก บ้านร่องกล้า หรือบ้านใหม่ร่องกล้าบ้าง ตอนนี้ ครอบครัวคนไทยอดีตทหารอาสามีอยู่ประมาณ 10% ที่เหลือเป็นชาวม้ง หลายคนขายที่ดินให้กับพี่น้องม้ง เพราะสู้ความขยันของพี่น้องม้งไม่ได้ที่ตื่นมาทำไร่ ตั้งแต่ตี 2 ตี 3
จริงดังว่า ประมาณตี 2 ตี 3 สังเกตว่า ได้ยินเสียงเครื่องสูบน้ำดัง แสดงว่า มีชาวบ้านลุกขึ้นมาทำงานแล้ว แต่เราขอนอนเหอะหนาวแบบนี้
จากซากุระ หรือพญาเสือโคร่งต้นเดียวในหมู่บ้าน เมื่อ 10 ปีก่อน อุทยานฯ ได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกป่า บนพื้นที่เสื่อมโทรมภูลมโลและภูขี้เถ้า ต่อมาหลายภาคส่วนได้เข้ามาสนับสนุนการปลูกกลายเป็นป่าซากุระที่งดงามเต็มภูเขา รวมทั้งในหมู่บ้านร่องกล้า
เมื่อ 5-6 ปีก่อนมีการจัดระเบียบ การขึ้นไปยังภูลมโล ให้ใช้รถของชาวบ้านร่องกล้า สร้างรายได้ให้กับชุมชน จุดจองรถจะอยู่ตรงใกล้ที่ทำการอุทยาน, และปากทางขึ้นภูลมโล คันละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 คน แต่ยังมีอีกเส้นทางหนึ่ง จากกกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย จุดนั้น 1,500 บาท เพราะต้องเดินทางไกลกว่า แต่คุ้มค่าหละ
จุดพีค ที่กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิต ก็นี่เลย เนินเขาท้ายหมู่บ้าน ขึ้นไปยังเนินเขาตรงวัดป่าภูหินรองกล้า เดินทางเท่าอีกประมาณ 300 เมตร ทะลุชายป่าออกไปก็จะเห็นหมู่บ้านร่องกล้า สีชมพูสดใส เหมือนหมู่บ้านในฝันเลยทีเดียว
บนจุดนี้ จึงได้เห็น คนหลายวัย แต่ตัวสวยๆ มาถ่ายรูปกันเป็นที่น่าประทับใจ
คืนแรกว่า หนาวแล้ว คืนที่ 2 หนาวกว่า
กับที่บ้านร่องกล้า 2 วัน คุ้มค่ามากเมื่อต้องเจอกับเสียงบ่นของเจ้านายคะ
#แถม ตรงเส้นทางจากอุทยานมาบ้านร่องกล้า ซ้ายมือมีโครงการพระราชดำริ มีสวนดอกกระดาษ ปลูกริมเชิงผา สวยมาก อย่าพลาดจุดนี้อีกจุดนะคะ
ประทับใจ คุ้มค่าคะ บ้านร่องกล้า
 
ฝากติดตามเพจ คนเดินทาง-touch the world ด้วยคะ

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=444147073621475&id=115898909779628