เจอแล้ว!!ต้นตอแพร่โควิด มาจาก”แรงงานต่างด้าว”จี้กรมควบคุมโรค ปิดเคสให้ได้

“อนุทิน” ชี้ ต้นตอ “เจ๊แพปลา” สมุทรสาคร ติด โควิด-19 มาจาก “แรงงานต่างด้าว” สั่งกรมควบคุมโรค ปักหลักอยู่ในพื้นที่ ห้ามเคลื่อนย้าย  เปรย อาจใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งผู้ประกอบการนำแรงงานไปสอบโรคได้ 

วันที่18 ธ.ค.63 เวลา 15.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงความคืบหน้าการสอบสวนโรคที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังพบเจ๊แพปลาติดโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขระดมเจ้าหน้าที่เต็มที่ เชื่อว่าการควบคุมการแพร่ระบาดของการกระจายเชื้อ สามารถควบคุมได้ และสั่งการอธิบดีกรมควบคุมโรคแล้วว่า ห้ามออกจากจังหวัดสมุทรสาครให้ปักหลักอยู่ที่นั่น เพื่อคอยสืบสวนและสอบสวนโรค จนไปถึงตรวจสอบคนที่อยู่ในวงกลุ่มเสี่ยง คือ สัมผัสสูง สัมผัสกลาง สัมผัสต่ำจากผู้ป่วย

นายอนุทิน ระบุว่า ที่น่าเป็นห่วงคือมารดาของผู้ติดเชื้อ เนื่องจากมีอายุ 95-97 ปี เข้าข่ายเสี่ยงสูง ขณะนี้ถึงมือแพทย์หมดทุกคนแล้ว ส่วนการตรวจเชื้อนั้นต้องขยายวงเพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุดคือหลายพันคน เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ขออย่าตื่นตระหนกจนเกินไป ขอให้ยึดใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่าต้นตอมาจากเจ้าของแพ หรือ จากแรงงานต่างด้าว นายอนุทินกล่าวว่า น่าจะมาจากแรงงานต่างด้าวมากกว่า ตามที่อธิบดีกรมควบคุมโรครายงาน เพราะคนที่อยู่ในเรือประมง เราก็ไม่รู้ว่าเขาป้องกันอย่างไร และเมื่อเรียกตัวมาสอบแล้วว่าจะให้ข้อมูล เราก็ต้องเอาโทรศัพท์ของเขามาดูข้อมูลเพื่อยืนยันและตรวจสอบว่าอยู่ที่ไหน ไปที่ไหนบ้าง อย่างกรณีนี้ถ้าเขามาจากท่าขี้เหล็ก เราก็จะได้สอบโรคได้ว่าต้นตอมาจากไหน อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยันว่าจะปิดเคสให้ได้ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน

ตอนนี้ถ้าเราเจอคนไข้เรารักษาได้ เพราะส่วนใหญ่คนไข้ยังไม่แสดงอาการเข้าขั้นตรีทูต ดังนั้นการรักษายังสามารถทำได้รวดเร็ว โอกาสที่จะกระจายเชื้อก็น้อย เชื้อโควิด-19 มีทั้งส่วนแข็งแรงและส่วนอ่อนแอ ตอนนี้เราก็จับส่วนอ่อนแอมาบี้ ส่วนที่แข็งแรงก็ต้องพยายามไม่ให้มันแผลงฤทธิ์ กรมควบคุมโรคพยายามคิดวิธีที่จะทำให้เกิดความรวดเร็ว และประหยัดงบประมาณในการตรวจสอบคิดกันทุกวินาที เพราะเรื่องแบบนี้ถ้าไม่ได้ความร่วมมือ สิ่งที่เกิดความเสียหายคือ เราต้องเสียทรัพยากรและบุคลากรในการสอบโรคอย่างมากเพื่อหาให้เจอและปิดเคสได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลสามารถใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินในการออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ไปตรวจสอบโรคได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทำได้ แต่ยังไม่ถึงจุดนั้น เพราะยังไม่มีการระบาดนอกวง ยังอยู่ในกลุ่มที่ตามเจออยู่ และขยายขอบข่ายการตรวจ ซึ่งถ้าถึงจุดนั้นทำแน่นอน ไม่ต้องห่วง