พื้นที่ๆภูเขาล้อมรอบ มีช่องทางไม่ใหญ่นัก ที่มองเห็นไปยังพื้นราบ ความหนาวเย็นแห่งสายหมอก ไหลมาปะทะไม่ขาดสายหมุนวนในหุบเขา เหมือนท่อขนาดยักษณ์ที่ส่งไอเย็นพวยพุ่งไม่รู้หมด เก็บความหนาวไว้อยู่เนิ่นนาน กลิ่นกาแฟอันหอมอบอวล โชยมาสัมผัสจมูก รสชาติกลมกล่อมเมื่อแตะที่ปลายลิ้น เป็นกาแฟสดๆที่เก็บมาจากต้นของชาวบ้านผาฮี้
หมู่บ้านผาฮี้ หมู่บ้านของพี่น้องชาวอาข่า ที่เดินทางมาจากประเทศจีน เข้ามาอาศัยบนแผ่นดินผืนนี้มาหลายชั่วอายุคน วิถีที่แตกต่างๆ ดึงดูดผม และคนมากมายเดินทางไปเยี่ยมเยือน
ผาฮี้อยู่ที่ไหน สวยอย่างไร ส่วนตัว ไม่เคยรับรู้มาก่อน เพียงแต่มีความปรารถนาจะเดินทางไปจังหวัดเชียงราย ไม่รู้ว่า เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติด ชายแดนพม่าชนิดที่เรียกว่า จมูกชิดกัน
เส้นทางสู่ผาฮี้ ผ่านทางตำหนักดอยตุง จนเกือบสุดท้ายก็จะเจอหมู่บ้านกลางหุบเขา ที่มองเห็นพื้นราบอยู่ไกล มีเส้นทางลงไปยังแม่สาย เป็นช่วงก่อนการระบาดระลอง 2 ของโควิด-19 ที่เริ่มต้นจากแม่สาย บ้านผาฮี้ค่อนข้างจะคึกคัก แต่ก็ไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19
ชาวบ้านผาฮี้ มีบริการโฮมสเตย์จำนวนหลายหลัง ตระเวณดูอยู่พักหนึ่ง เมื่อดูวิวทิวทัศน์แล้ว ตัดสินใจออกมากางเต้นท์หน้าฐานตชด. ดอยช้างมูบ
ดอยช้างมูบ อยู่ติดชายแดนพม่าแค่รั่วไม้ไผ่กั้น เห็นหมู่บ้านพม่าอยู่ไกลๆ แต่มีฐานทหารพม่าอยู่ฝั่งตรงกันข้ามรั้วไม้ไผ วิวทิวทัศน์ยามเย็นของดอยช้างมูบสวยงามมาก มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนของฝั่งพม่า แม้ยาวเย็นก็มีสายหมอกแผ่เข้ามาเป็นระยะๆ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆตกลงไหล่เขา ท่ามกลางอากาศ 20 องศาต้นๆ นับว่า บรรยากาศดีมาก
กางเตนท์หน้าฐานตชด. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีห้องน้ำอำนวยความสะดวกให้ แล้วแต่จะหยอดลงกล่องบริจาค ตกกลางคืนเจ้าหน้าที่จะนำรั่วไม่กั้นเส้นทางไปหมู่บ้านผาฮี้ ใครเข้าออกถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวด บนดอย บริเวณฐานที่มีนั่งพักถ่ายรูป มีร้านกาแฟ จำหน่ายกาแฟสดเป็นร้านสวัสดิการของเจ้าหน้าที่
6 โมงเช้า ด่านเปิด จึงรีบเดินทางไปยังหมู่บ้านผาฮี้ ที่อยู่ห่างฐาน 2-3 กิโลเมตร เพื่อให้ทันดูดวงอาทิตย์ขึ้น แต่ไปถึงต้องผิดหวัง ที่จะได้ดูแสงอาทิตย์ เพราะสายหมอกลงมาปกคลุมตลอดช่วงเช้า จน 9 โมงกว่า จึงจะมองเห็นแสงอาทิตย์บนยอดเขา
ที่หมู่บ้านผาฮี้ เกือบทุกจุด บ้านกือบทุกหลัง เป็นจุดชมวิวที่สวยมาก ชาวบ้านที่นี่ปลูกกาแฟ เกิอบทุกบ้านจึงมีร้านกาแฟ มากกว่า 10 ร้าน บางบ้านก็ขายให้คนที่มาพักโฮมสเตย์ มี5-6 ร้านที่เปิดขายให้คนทั่วไป แต่ละร้านสังเกตุที่ร่มมีสีที่แตกต่างกัน
นั่งห้อยขา จิบกาแฟ กินไข่ลวก นับว่า ได้รสชาติ กว่าที่ไหนๆ เดินถ่ายรูปไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หมอกไหลเข้ามา ระลอกแล้วระลอกเล่า จนกว่า 9 โมง จึงได้เดินทางออกจากบ้านผาฮี้ ทิ้งความประทับใจไว้เบื้องหลัง แม้หนทางจะไกล แต่หากมีโอกาสก็จะเดินทางมาเยี่ยมเยือนอีก
บ้านผาฮี้ ชุมชนในฝัน
Poul Journey-นักเดินทาง
————
หมายเหตุ : บ้านผาฮี้ เป็นชุมชนของพี่น้องอาข่า ที่เดินทางมาจากประเทศจีนเมื่อนับ 100 ปีก่อน ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกกาแฟ เป็นกาแฟที่มีรสชาติดีแห่งหนึ่งของเชียงราย
อาข่า มีวัฒนธรรมประเพณี การโล้ชิงช้า ที่จะมีในเดือนสิงหาคม
สถานที่ท่องเที่ยวในหมู่บ้าน นอกจากนั่งชมวิว สัมผัสอากาศเย็นและสายหมอก ชาวบ้านได้สร้างสะพานไม้ ให้ไปเยี่ยมยม โดยมีรถกระบะคอยบริการ