รมว.สาธารณสุข เรียกร้อง กลุ่มไทยที่มาจาก เมียนมา รายงานตัวกับ จนท.ยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุด ทั้งการตรวจเชื้อ และ รักษา ยันขณะนี้ยังไม่มีมาตรการเข้มข้น ขอทุกคนแค่ สวมหน้ากากอนามัย ย้ำขอเวลาอีก6เดือน คนไทยได้วัคซีน
วันที่5 ธ.ค.63 เวลา 08.45 น. ที่ ท้องสนามหลวง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 หลังพบผู้ลักลอบเข้าประเทศไทยชายแดนเมียนมาร์ติดเชื้อโควิด-19 ว่า แม้จะแพร่กระจาย แต่จุดเริ่มต้นมาจากที่เดียวกันหมดเท่ากับว่า ยังไม่มีการแพร่กระจายระยะสอง เพราะยังไม่แพร่ทุกทิศทุกทางเหมือนช่วงต้นปีที่ผ่านมา และตอนนี้เราพยายามให้คนไทยที่อยู่ฝั่งเมียนมาและกลับเข้าประเทศให้แสดงตนไปที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจร่างกาย หากพบเชื้อก็ทำการรักษาไม่ต้องไปที่สถานีตำรวจ เราจะดูแลให้ทุกอย่าง พาไปตรวจเชื้อ พาไปกักตัว และรักษา
โดยจะประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางกลับไทย ดังนั้นถ้าใช้วิธีนี้คิดว่าไม่น่าจะมีเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่ม โอกาสจะแพร่เชื้อก็มาจากคนชุดแรกที่เข้ามา ซึ่งเวลานี้เราก็ใช้ระบบเข้าไปหาขยายผล ไปถึงผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลาง ต่ำ ก็พบทุกราย และที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จก็เพราะความร่วมมือจากคนไทยทุกคน ฉะนั้นคนที่เดินทางเข้ามาจากท่าขี้เหล็กที่เป็นจุดปะทุของเชื้อ และคนที่ไปสัมผัสให้รีบมาโรงพยาบาล บอกข้อเท็จจริง ไม่ต้องอาย ทุกคนสามารถติดเชื้อได้ แต่ต้องมีความรับผิดชอบ ยืนยันว่ายาเราดีและมีพร้อมที่จะรักษา กินไม่ถึงสัปดาห์ก็หายหมดทุกคน
เมื่อถามว่า แสดงว่ามาตรการในประเทศยังไม่ต้องเข้มข้นกว่านี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเราเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการ สวมหน้ากากอนามัยก็คงไม่มีการล็อกดาวน์ในขณะนี้ เนื่องจากที่มาของเชื้อยังเป็นจุดเดิม แต่ถ้ากลับมาแล้วยังตระเวนเที่ยวไปตามที่ต่างๆ เดินทางข้ามจังหวัด ก็อาจจะใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้น ทั้งนี้ขอย้ำให้ผู้ที่เดินทางกลับเข้าประเทศมาแสดงตน และให้ถือว่ามาตรวจสุขภาพ เพราะเวลานี้ยังต้องเฝ้าระวังไปเรื่อยๆจนกว่าสถานการณ์จะนิ่ง
เมื่อถามว่า ข้อกำหนดที่ผ่อนคลายไปเช่นเรื่องการรวมตัวของจำนวนคนในกิจกรรมต่างๆ จะต้องกลับมาเข้มข้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โดยหลักแล้วไม่ต้องกังวลแค่ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง วันนี้คิดว่าคงไม่มีใครไปงานขนาดใหญ่ เช่นคอนเสิร์ต แต่ไปก็ต้องระวัง ส่วนคนจะไปเที่ยวช่วงนี้สามารถเดินทางไปได้ แต่ขอให้เข้าใจว่าการแพร่กระจายเชื้อในระยะเมตรครึ่ง ถ้าเราไม่ไปในสถานที่เช่น ผับบาร์ โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ใช้ภาชนะร่วมกันก็ไม่ติด กิจกรรมคอนเสิร์ต หรือ การไปชุมนุมก็ทำได้ ขอให้เข้าใจเรื่องการป้องกันโรค
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ข้อบังคับกำหนดห้ามการชุมนุมทางการเมืองใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า อย่าเอามาปนกัน เพราะคนละเรื่อง กรณีที่ตนกล่าวเป็นเรื่องการควบคุมโรคไม่ใช่การเมือง เวลานี้ความเดือดร้อนส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคเหนือ ดังนั้นสัปดาห์หน้าตนและรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา จะลงไปเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพื้นที่และให้กำลังใจคนทำงานหน้าด่าน เพราะเวลานี้ความพร้อมของเรามีเต็มที่ อย่างไรก็สามารถควบคุมได้ อีก 6 เดือนก็มีวัคซีนออกมา จึงขอให้มั่นใจไม่จำเป็นต้องปิดจังหวัด เพราะโควิดกระจอกงอกง่อยถ้าเราเข้าใจและมีอาวุธพร้อม