ปะทะเดือด!ปารีณาเผชิญหน้าพริษฐ์-ไมค์กลางวงกมธ.ฉะเด็กเลี้ยงแกะเลี้ยงไก่

“ปารีณา”ปะทะเดือด “เพนกวิน-ไมค์ ระยอง” กลางห้อง กมธ.ปปช. ตั้งข้อสังเกตุ โดน จนท.ตร.ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ติดตามโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อน ปะทะคารมเดือด ปม”หมายจับ” ลามถึง “เล้าไก่-เล้าหมู”

วันที่ 3 ธ.ค.63 เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง สองแกนนำกลุ่มราษฎร เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กรณีมีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐจากการควบคุมตัวนายพริษฐ์ และนายภานุพงศ์ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทั้งที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังแล้ว และถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

นายพริษฐ์กล่าวว่า นับตั้งแต่ได้เคลื่อนไหวตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นมา ปรากฏว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น โดยเฉพาะการถูกจับจ้องจากตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เช่น ส่งคนเข้ามาสังเกตการณ์ระหว่างทำกิจกรรมภายในรั้วมหาวิทยาลัย ไปจนถึงติดกล้องวงจรปิดถึง 8 ตัว บริเวณบ้านเช่าที่อาศัยรวมกันกับเพื่อน ย่างเชียงราก จ.ปทุมธานี ซึ่งปกติมีอาชญากรรมเกิดขึ้นมากมาย

แต่ไม่เคยได้รับการดูแลอย่างดีแบบนี้มาก่อน ขณะนี้ตนถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 26-27 คดี บางคดีตำรวจใช้วิธีการแจ้งข้อหาหลายๆ ข้อหารวมกัน เพื่อสร้างความลำบากในการแก้ข้อกล่าวหา เนื่องจากตัวเองยังมีภารกิจต้องเรียนหนังสืออยู่ โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 17 คดี เป็นคดีเกี่ยวกับมาตรา 116 และ 112 ซึ่งบางข้อหามองว่าเป็นการแจ้งข้อหาโดยมิชอบทำให้ไม่สามารถสู้คดีได้ ส่วนนายภาณุพงศ์ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 6 คดี ล่าสุดคือ มาตรา 112

สำหรับกรณีที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขัง เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่มีการอายัดตัว เนื่องจากมีคดีที่จังหวัดนนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุบลราชธานี ก่อนถูกนำตัวไปที่ สน.ประชาชื่น นั้น นายพริษฐ์กล่าวว่า วันดังกล่าวได้ร้องพบทนายตามสิทธิขั้นพื้นฐาน เพราะมองว่าเป็นหมายจับที่สิ้นผลไปแล้ว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หลอกล่อว่า น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ซึ่งถูกแยกขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ยอมไปกับตำรวจที่มาขออายัดตัวตนเองกับนายภาณุพงศ์ จึงยอมขึ้นรถไปกับเจ้าตำรวจไปที่ สน.ประชาชื่น

“ก่อนที่จะขึ้นรถไปยัง สน.ประชาชื่น นายภาณุพงศ์ระบุว่า ผม และนายพิริษฐ์ ได้ยินเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พูดว่า สงสัยต้องใช้กำลัง จากนั้นมีตำรวจนอกเครื่องแบบ 6 นาย มากระชากตัวนำขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหา โดยไม่ได้แสดงตัวและไม่ได้แสดงหมายจับ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ 3 นายขึ้นรถไปด้วย และกดตัวไว้ เพื่อไม่ดิ้นและไม่ให้เปิดกระจกรถ ทำให้ไมค์เป็นลมในที่สุด ส่วนเศษกระจกที่บาดตามตัวนายพริษฐ์นั้น จำไม่ได้ว่ากระจกแตกจนบาดตามตัวได้อย่างไร เพราะขณะเกิดเหตุชุลมุนกันมาก มารู้ตัวอีกทีคือถูกนำตัวลงมาจากรถควบคุมผู้ต้องหาแล้ว และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.พระราม 9 ก็มีเจ้าหน้าที่มาแสดงหมายจับจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา และอุบลราชธานี โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างให้ทีมกฎหมายรวบรวมหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อตำรวจนอกเครื่องแบบทั้ง 6 คน”

นายพริษฐ์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนและนายภาณุพงศ์เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม และผู้เห็นต่างทางการเมือง พร้อมเรียกร้องกรรมาธิการเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติมด้วย

ในช่วงท้ายมีการโต้เถียงกันระหว่าง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กรรมาธิการฯ กับนายภาณุพงศ์ และนายพริษฐ์ โดย น.ส.ปารีณา สอบถามทั้ง 2 คนเกี่ยวกับการปล่อยตัวว่า การจะปล่อยตัวได้นั้น ต้องมีหมายศาลมาที่เรือนจำก่อน จึงจะสามารถปล่อยตัวได้ใช่หรือไม่ ซึ่งนายภาณุพงศ์ยอมรับว่าใช่ และพยายามจะอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ น.ส.ปารีณาแย้งขึ้นมาว่าไม่ต้องพูดเรื่องนี้ซ้ำอีก เพราะชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้นายพริษฐ์พยายามอธิบายและลุกขึ้นชี้มือไปทาง น.ส.ปารีณา ทำให้ น.ส.ปารีณา ลุกขึ้นยืนและชี้นิ้วกลับไปว่า อย่าชี้หน้าที่นี่ไม่ใช่ม็อบ ทำให้นายพริษฐ์โต้กลับว่า “ที่นี่ไม่ใช่เล้าไก่” โดย น.ส.ปารีณาตอบกลับอีกว่า “ดิฉันเคยเลี้ยงไก่ แต่ดิฉันไม่ชอบเลี้ยงหมู”

ต่อมา น.ส.ปารีณา ได้ถามว่าจะดำเนินการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ที่กระทำการโดยมิชอบตามที่กล่าวหาหรือไม่ โดยนายภาณุพงศ์กล่าวว่า การที่ถามเช่นนี้ไม่ได้ฟังในสิ่งที่ตนได้ชี้แจง กมธ.ไปก่อนหน้านี้ว่ากำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการฟ้องร้อง

ซึ่ง น.ส.ปารีณากล่าวว่า “ดิฉันไม่ชอบฟังเด็กเลี้ยงแกะก็เลยฟังบ้างไม่ฟังบ้าง” นายพริษฐ์สวนขึ้นมาอีกว่า “ต้องเลี้ยงไก่ใช่ไหมครับ” ขณะที่ น.ส.ปารีณาย้ำอีกว่า “ดิฉันเลี้ยงไก่ค่ะ แต่ไม่เลี้ยงหมู”

จากนั้นนายประเดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการ กมธ. ตัดบทว่าผู้มาชี้แจงทั้ง 2 คน ไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถาม หากคำถามไหนตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องตอบ แต่สามารถส่งเป็นเอกสารมาชี้แจงในภายหลังได้ ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวสรุปว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะดำเนินการเรียก ผบ.ตร.และบุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่ทั้ง 2 คนกล่าวถึงมาชี้แจงต่อ กมธ.ต่อไป