โจ ไบเดน เล็งยกเลิก คำสั่งห้าม มุสลิม เข้าสหรัฐฯ บนเวทีสาบานตน รับตำแหน่ง

ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมประกาศยกเลิกคำสั่ง ชาวมุสลิมเข้าประเทศ โดยวางแผนที่จะจัดดำเนินการทันที หลัง กำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. ปีหน้า

วันที่ 10 พ.ย. 2020 เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ (Washington Post) รายงานโดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมหาเสียงของ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคำมั่นสัญญาที่เขากล่าวไว้ในช่วงก่อนเลือกตั้ง โดยระบุว่าไบเดนวางแผนเซ็นคำสั่งประธานาธิบดีหลายฉบับ ในวันแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยกเลิกการจำกัดการเดินทางของคนในประเทศมุสลิมหลายประเทศ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ชาวอิสลามจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นคำสั่งสำคัญในลำดับต้นๆ ซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีคนล่าสุด จากพรรคเดโมแครต ได้ใช้เป็นนโยบายหาเสียง ในช่วงที่อำนาจเปลี่ยนมือ และอาจเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านที่น่าจับตามองที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ คือการกลับเข้าร่วมข้อตกลงปารีส ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Paris climate accords) ที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวออกมาตั้งแต่ปี 2017 ก่อนจะมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา อีกทั้งยังวางแผนที่จะยกระดับมาตรฐานการควบคุมก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นนโยบายที่เรียกได้ว่าตรงข้ามกับทรัมป์แบบสุดขั้วเลยทีเดียว

ต่อมาคือการยกเลิกคำสั่งถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่สหรัฐฯ ตัดสินใจประกาศถอนตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่จะยังไม่มีผลจนกว่าจะถึงวันที่ 6 ก.ค. ปีหน้า หากไบเดนได้เข้าไปนั่งในทำเนียบขาวตามกำหนดการที่วางไว้ ก็จะสามารถยับยั้งคำสั่งดังกล่าวได้ทัน

ตามรายงานระบุว่าทีมงานของไบเดนใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนว่าจะดำเนินการเรื่องใดบ้าง มีการเตรียมคำสั่งหลายร้อยคำสั่ง เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ โดยจะเน้นเรื่องที่เขาประกาศไว้ในการหาเสียงเป็นอย่างแรกๆ ที่สำคัญ ไบเดนวางแผนที่จะจัดตั้งทีมปฏิบัติการเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในวันนี้ แม้ว่าจะต้องรออีกกว่า 2 เดือนจึงจะได้เริ่มงานจริง แต่ประเด็นนี้ถือเป็นหนึ่งในเรื่องเร่งด่วน ที่ต้องมีการวางแผนให้พร้อมสำหรับดำเนินการทันที

อีกเรื่องสำคัญที่เขาหาเสียงเอาไว้ คือการกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของทำเนียบขาว ที่เขาให้คำมั่นว่า จะประกาศคำสั่งประธานาธิบดี ห้ามไม่ให้คนของรัฐบาลชุดนี้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสอบสวนใดๆ ของกระทรวงยุติธรรม มีรายงานว่าทีมงานของไบเดนได้รับคอมพิวเตอร์และไอโฟนที่ออกให้โดยรัฐบาลแล้ว เพื่อให้การสื่อสารทำได้อย่างปลอดภัย รวมถึงสำนักงานบนตึก Herbert C. Hoover ในกรุงวอชิงตัน ที่มีพื้นที่ 930 ตารางเมตร แม้ว่าในตอนนี้อาจยังใช้งานได้ไม่เต็มที่นัก อันเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ทีมงานของไบเดนจะยังไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรและข้อมูลของรัฐได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากทางองค์กรกํากับการบริหารงานภาครัฐ (General Services Administration) ยังคงต้องรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเสียก่อน