สำนักข่าวอิศรา ระบุ มีผู้เห็นต่างกับการจัดงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ในวันอังคารที่ 10 พ.ย.63 ชี้ เป็นการนำศาสนาไปข้องแวะกับการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา รายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ระบุว่า หลังจาก เพจเฟซบุ๊ก “สำนักจุฬาราชมนตรี” ประกาศประชาสัมพันธ์ว่า คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ขอเชิญร่วมงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ในวันอังคารที่ 10 พ.ย.63 เวลา 08.30-12.00 น. ที่หอประชุมศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ ถนนคลองเก้า แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยภายในงานจะมีการเสวนาเรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์ กับมุสลิมในแผ่นดินไทย” ด้วย
ล่าสุดมี มุสลิม ที่ใช้ชื่อว่า “ลาลาโต เพชรบุรี” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก และมีผู้แชร์ข้อความต่อจำนวนหนึ่ง เป็นจดหมายเปิดผนึกถึงจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ขอให้ทบทวนการจัดงาน โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยในตอนนี้มีความอ่อนไหว และมีความแตกแยกทางความคิดเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งต้องการปกป้องสถาบัน อีกฝ่ายต้องการประชาธิปไตย ซึ่งมีความสุ่มเสียงที่จะเกิดความรุนแรงในอนาคต ฉะนั้นต้องยอมรับและหลีกเลียงไม่ได้ว่านี่คือ “การเมือง”
ความคิดของฝ่ายหนึ่งต้องการปกป้องสถาบัน มองว่าจะมีการล้มล้างสถาบัน ก็เป็นข้อมูลของฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่ผิดถ้ามีความคิดแบบนั้น ขณะที่ความคิดของอีกฝ่ายหนึ่งต้องการความเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องการให้มีการปฎิรูปสถาบัน ไม่ได้ล้มล้างสถาบัน ก็เป็นข้อมูลของอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่ผิดถ้าจะคิดแบบนั้น สำนักจุฬาราชมนตรี เป็นองค์กรสูงสุดของศาสนาอิสลาม ซึ่งทุกคนที่เป็นมุสลิมได้ยึดถือ จึงไม่ควรที่จะใช้ชือ “สำนักจุฬาราชมนตรี” เข้าไปเกียวข้องกับความแตกแยกทางความคิดในครั้งนี้
ตอนนี้สื่อสารมวลชนหลายสำนัก หลายช่อง ได้กระจายข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ สำนักจุฬาราชมนตรีได้ทำการเชิญชวนร่วมงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ซึ่งจะกลายเป็นการแสดงว่า สำนักจุฬาราชมนตรีเข้าไปอยู่ร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว จึงไม่ควรจะนำองค์กรศาสนาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และไม่มีศาสนาใดเลยที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ จึงขอให้ทบทวนเรื่องนี้เพื่อปกป้องศาสนาอิสลามซึ่งเป็นสิ่งสูงสุดของพี่น้องมุสลิมทุกๆ คน
ด้าน พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแนวคิดการจัดงานรวมพลังมุสลิมปกป้องสถาบันหลักของชาติว่า เป็นเพราะพี่น้องมุสลิมซาบซึ้งในพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ว่าพระองค์ทรงดูแลในเรื่องของภาคใต้ ทรงดูแลพี่น้องมุสลิมในถิ่นทุรกันดาร ทรงสร้างศูนย์ศิลปาชีพขึ้นมาเพื่อยกฐานะและความเป็นอยู่ของมุสลิม ทัั้งในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย
นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงสนับสนุนการสร้างมัสยิดที่จังหวัดเพชรบุรี และทรงเยี่ยมกิจกรรมของมัสยิดในหลายๆ กิจกรรม โดยเฉพาะในเรื่องของงานเมาลิดกลาง นับจากในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จฯอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงรัชกาลของในหลวงองค์ปัจจุบัน ก็เสด็จฯเช่นกัน และเคยเสด็จฯตั้งแต่เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสยามมกุฎราชกุมาร
พล.ต.ต.สุรินทร์ บอกด้วยว่า ชาวมุสลิมมีความผูกพันกับราชวงศ์จักรี เพราะโดยหลักแล้วมุสลิมส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นคนส่วนน้อยของประเทศไทย แต่พระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญ หลายๆ เรื่องพระองค์ทรงให้ความเมตตา
สำหรับการจัดกิจกรรม “รวมพลังมุสลิม” จะจัดขึ้นที่หอประชุมศูนย์บริหารกิจการทางศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ถนนคลองเก้า เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยจะมีผู้มาร่วมงานประมาณ 5,000 คนจากทั่วประเทศ ภายในงานนอกจากจะมีกิจกรรมการเสวนาบนเวทีแล้ว จุฬาราชมนตรี นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จะมีการขอพรให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติ พ้นทุกข์ และให้ประเทศไทยอยู่อย่างสงบด้วย ส่วนที่มีผู้เห็นต่าง ขอให้ทบทวนการจัดงานนั้น ยืนยันว่ากิจกรรมยังจัดเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง