พัชรศรี เบญจมาศ หรือ ‘กาละแมร์’ เปิดใจ แจงปมโดนปลดจากช่อง 3 เผยเป็นพนักงานมา 23 ปี เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น วันใดทางช่อง อยากเรียกใช้ ก็ยินดีเสมอ
วันที่ 31 ต.ค.63 กรณีช่อง 3 ประกาศปรับลดองค์กร-เลิกจ้างพนักงาน 30% มีผลสิ้นเดือนธ.ค.63 และจะจ่ายค่าชดเชยและสิทธิประโยชน์จะเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งการประกาศหนึ่งในจำนวนดังกล่าวมีชื่อของพิธีกรดัง กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ รวมอยู่ด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พัชรศรี เบญจมาศ หรือ กาละแมร์ เปิดใจโดยบันทึกเป็นคลิปโพสต์ไว้ในอินสตาแกรม kalamare ว่า เธอเป็นพนักงานฝ่ายข่าวช่อง 3 มา 23 ปีแล้ว และเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอยางดี
“เราเข้าในสถานการณ์ที่ช่องได้เผชิญอยู่ ดังนั้นถ้าช่องต้องลดค่าใช้จ่าย อะไรที่ช่องสามารถปรับได้ แมร์เข้าใจช่อง 3 ในการตัดสินใจครั้งนี้”
ตนเองเป็นพนักงานช่อง 3 มา 23 ปี รับเงินเดือนเหมือนพนักงานบริษัททั่วไป หากมีการอ่านข่าว เช่น รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง การอ่านข่าวเบรก ตนก็จะได้เงินพิเศษจากตรงนั้นด้วย พนักงานแต่ละคนได้รับค่าตอบแทนไม่เหมือนกัน ส่วนรายการ 3 แซ่บ หรือรายการเทคมีเอ้าท์ ตนก็ได้รับเงินพิเศษจากผู้จัดรายการนั้นๆ
ช่วงที่ผ่านมา ประมาณ 4 ปีกว่าๆ ตนรับเงินเดือนทุกเดือนมาโดยตลอด จนถึงทุกวันนี้ แต่ตนไม่มีโอกาสไปช่วยงานช่อง โดยเฉพาะฝ่ายข่าว ตนเป็นพนักงานฝ่ายข่าว สมัครงานมาด้วยตำแหน่งนี้ตลอด แต่ส่วนใหญ่ตนจะทำรายการเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยเข้าช่อง ปีหนึ่งจะช่วยงานช่องสักครั้งสองครั้ง เช่น งานฟุตบอล งานพบสื่อ งานปาร์ตี้ งานครบรอบช่อง นอกจากนั้นก็ไม่ได้เข้าเลย
นอกจากนั้นก็มีคุยเรื่องการทำรายการเช่น ซุปเปอร์แมร์ ที่ช่องเมตตา และให้ตนได้ทำ อนาคตอันใกล้ก็มีโอกาสจะได้คุยโปรเจกต์ต่อไป ยุคนี้โฆษณาเข้าน้อยลง และยิ่งช่วงโควิด 19 ตนเข้าใจในสถานการณ์ที่ช่องเผชิญ ดังนั้นถ้าจะต้องมีการลดค่าใช้จ่าย อะไรที่สามารถตัดได้ ตนเข้าใจในการตัดสินของช่อง 3 เป็นอย่างยิ่ง
สำหรับตนไม่มีช่อง 3 ไม่มีกาละแมร์ 23 ปี ของการเป็นพนักงานช่อง 3 เกินครึ่งชีวิต ช่อง 3 เหมือนครอบครัว เจ้านายเหมือนพ่อแม่ ทีมงาน เพื่อนร่วมงานเหมือนพี่น้อง เจอหน้ากันใครใด ยิ้มแย้มสนุกสนาน ช่องให้ความช่วยเหลือตนเสมอ
แม้ตนจะไม่ได้เป็นพนักงานช่อง 3 แล้ว วันใดทางช่อง 3 อยากเรียกใช้ตน ตนก็ยินดีเสมอ ยืนยันว่าไม่มีการย้ายช่อง ช่อง 3 เล็งเห็นว่าตนเติบโตขึ้น มีธุรกิจ ลงแรงลงใจกับมันไปเยอะ จริงจังมาก ดังนั้น เมื่อช่อง 3 เห็นการเติบโตแข็งแรงของตน ก็อาจจะคิดแล้วว่าเด็กคนนี้น่าจะไปรอด ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ไม่ว่าตนจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม ช่อง 3 เป็นครอบครัวตนเสมอ เมื่อไหร่เมื่อนั้น มองตาก็รู้ใจ ขอบคุณทุกคนทั้งผู้ชม และผู้ที่อุดหนุนสินค้าตนที่คอยให้กำลังใจกันเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็ติดตามกันได้เสมอ หน้าจอยังมี 2 รายการให้ติดตาม และสามารถติดตามกันได้ในโซเชียลมีเดีย ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง