ประธานสภา นำ ตัวแทน การเมือง ขรก.และ ปชช. วางพวงมาลา พระบรมราชานุสรณ์ ร.5 น้อมรำลึกพระกรุณาธิคุณที่มีต่อ พสกนิกร ขณะที่ หน.พรรคปชป.ประกาศพร้อมร่วมประชุม รัฐสภา หาแนทางออก แก้วิกฤตการเมือง
วันที่ 23 ต.ค.63 ที่ ลานพระรูปทรงม้าฯ พระลานพระราชวังดุสิต หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา พรรคการเมืองต่างๆ วางพวงมาล าถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 5 น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบรอบ 110 ปี อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมคณะกรรมการบริหารและ ส.ส.ปชป.
นายจุรินทร์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม การอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง ในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 26-27 ต.ค.นี้ ว่าวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) จะมีการประชุม ส.ส.พรรคปชป. เพื่อเตรียมความพร้อม เกี่ยวกับการอภิปรายทั้งการกำหนดกรอบเวลา กำหนดตัวบุคคล และประเด็นที่จะอภิปราย โดยย้ำให้ยึดจุดยืนที่พรรคประกาศ ว่าจะเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และต้องการให้การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ ขณะนี้ถือว่า ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่มีความเห็นพ้องต้องกัน นำมาสู่การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ รวมถึงจุดยืนที่อยากเห็นทุกฝ่ายหาทางออกให้กับประเทศโดยใช้แนวทางสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การอภิปราย ส.ส.ของพรรคจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ จะเสนอทางออกหลังการอภิปรายเสร็จสิ้นว่าควรจะทำอย่างไร อย่างน้อยที่สุดอยากเห็นการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ขึ้นมา ประกอบด้วย สมาชิกรัฐสภา ทั้งซีกรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจากภายนอก เพื่อหารือกันลึกในรายละเอียด ช่วยกันกำหนดทางออกในสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นรูปธรรม อะไรที่เห็นไม่ตรงกันอาจจะแขวนไว้ก่อน แต่อะไรที่เห็นตรงกัน ก็ถือเป็นความเห็นพ้องของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติ ช่วยกันให้ทางออกของประเทศภายใต้ความเห็นร่วมของรัฐสภา และการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา และเพื่อพิสูจน์ว่าระบบรัฐสภายังเป็นที่พึ่งของประชาชน
ส่วนกรณีเอกสารเสนอญัตติเปิดประชุมรัฐสภา เพื่ออธิบายทั่วไปตามมาตรา 165 ของรัฐบาล เกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่ 14 ตุลาคม จนนำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง สุ่มเสี่ยงทำให้การอภิปรายพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า หากมีการอภิปรายสุ่มเสี่ยงถึงสถาบันฯ เป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาในการควบคุมการประชุมไม่ให้ผิดข้อบังคับและเป็นไปตามกฎหมาย และปฏิเสธแสดงความเห็นหากบางพรรคการเมืองจะหยิบยกเรื่องสถาบันฯ มาอภิปราย โดยย้ำว่าทุกพรรคต้องยึดจ้อบังคับการประชุม
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึง การประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ หากเป็นไปได้ อยากให้นำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ร่าง บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมในวันที่ 26 -27 ต.ค.นี้ด้วย อาจจะพิจารณาทั้ง 6 ร่างไปก่อน ส่วนอีกแนวทางคือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ มาพิจารณารวมกับ 6 ร่าง ก็ต้องรอช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงจะบรรจุวาระได้ โดยเรื่องนี้มอบหมายให้วิปพรรคประชาธิปัตย์ไปหารือกับวิป 3 ฝ่ายว่าจะพิจารณาพร้อมกับ 6 ร่างได้หรือไม่ เพราะหากรอจะมีข้อกังขาว่าถ่วงเวลา ดังนั้นควรหาข้อสรุปโดยเร็ว