โพล ฟันธง! ปชช. ร้อยละ40.9 ไม่เห็นด้วย พท.จับมือ “บิ๊กตู่” ชี้ มีสัญญาณ ลต.ใหม่

“นิด้าโพล” เผย เพื่อไทยปรับเปลี่ยนพรรคใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะคนไม่เห็นด้วย ร้อยละ 49.09 หากเข้าร่วมรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” มองจุดยืนต่างทำงานยาก

วันที่4 ต.ค.63 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจประชาชนทั่วประเทศ 1,316 หน่วยตัวอย่างเรื่อง “ความเคลื่อนไหวพรรคเพื่อไทย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 29 – 30 ก.ย.63 เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการเปลี่ยนแปลงในพรรคเช่น การลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ฯ ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ การลาออกจากหัวหน้าพรรคฯของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์

พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.16 ระบุว่า เป็นแค่การปรับเปลี่ยนทั่ว ๆ ไป เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รองลงมา ร้อยละ 19.30 ระบุว่า เป็นการส่งสัญญาณว่าอาจมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่เร็ว ๆ นี้ ร้อยละ 9.27 ระบุว่า เป็นกลลวงทางการเมืองของพรรค ฯ ในการเอาชนะรัฐบาล ร้อยละ 8.36 ระบุว่า คนในตระกูลชินวัตร จะเข้ามาควบคุมพรรคฯเอง ร้อยละ 7.14 ระบุว่า เป็นสัญญาณว่าพรรคเพื่อไทยกำลังจะแตก

ด้านความคิดเห็นของประชาชนหากพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจร่วมรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ร้อยละ 15.88 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพื่อลดความขัดแย้งทางการเมือง ประเทศจะได้เดินหน้าต่อไป ขณะที่บางส่วนระบุว่า จะได้ช่วยกันบริหารประเทศให้ดีขึ้น เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมานาน ร้อยละ 16.41 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ เพื่อลด ความขัดแย้งทางการเมือง สร้างการปรองดอง ขณะที่บางส่วนระบุว่า จะสามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆให้ดีขึ้นได้

ร้อยละ 16.87 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ มีแนวทางการทำงานทางการเมืองไม่เหมือนกัน มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกันจึงทำให้ทำงานร่วมกันได้ค่อนข้างยาก ร้อยละ 49.09 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ แนวคิด จุดยืนทางการเมืองการทำงานมีความแตกต่างกันซึ่งถ้าเข้าร่วมอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนหากพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แต่นายกรัฐมนตรีไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ร้อยละ 24.09 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะ จะได้มีการแก้ไขปัญหา พัฒนา เปลี่ยนแปลงการเมืองไทยร่วมกัน ซึ่งจะสามารถทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ร้อยละ 22.11 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ จะได้มีการบริหารจัดการปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ขณะที่บางส่วนระบุว่า เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบ้าง ร้อยละ 14.51 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้ยาก ขณะที่บางส่วนระบุว่า ยังต้องการให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ร้อยละ 37.54ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ แนวทางการทำงาน อุดมการณ์แตกต่างกัน ต้องการให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคอื่นร่วมเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองของพรรคอย่างชัดเจน