เปิดไทม์ไลน์ “คดีน้องชมพู่” ในพื้นที่บ้านกกกอก ตั้งแต่วันที่หายตัว เสียชีวิตปริศนา ผ่านมา 144 วัน ก่อน ผบ.ตร.เตรียมแถลงความคืบหน้าล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้
ผ่านมาแล้ว 144 วัน สำหรับ “คดีน้องชมพู่” หายตัวปริศนา ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดี ท่ามกลางความสนใจของประชาชน โดยมีความเคลื่อนไหวต่างๆที่น่าสนใจดังนี้
วันที่ 11 พ.ค.63
น้องชมพู่ อายุ 3 ปี หายตัวปริศนา ตั้งแต่เช้าวันที่ 11 พ.ค.63
พ่อแม่ของน้องชมพู่ ออกไปทำงานแต่เช้าตรู่ โดยน้องชมพู่อยู่กับพี่สาว อายุ 13 ปี
ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนถึงวันที่ 14 พ.ค.63 พ่อและแม่ รวมถึงชาวบ้านได้ออกตามหาน้องชมพู่ตลอดเวลา และได้นำร่างทรงมาประกอบพิธีตามความเชื่อ เพื่อขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้หาเจอนั้น
วันที่ 14 พ.ค.63
ช่วงบ่ายของวันที่ 14 พ.ค.63 ยายตุน อายุ 70 ปี ชาวบ้านจังหวัดสกลนคร เดินเท้าขึ้นไปเก็บเห็ดหาของป่าเทือกเขาภูพานน้อย เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล แจ้งเบาะแสว่า พบรองเท้าเด็กสีเขียว บนกลางป่า ก่อนที่จะนำทางเจ้าหน้าที่เดินทางไปจุดที่พบรองเท้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พื้นที่ใกล้เคียง ห่างจากจุดพบรองเท้า ประมาณ 5 เมตร พบศพน้องชมพู่ อยู่ในสภาพเปลือยกาย แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่ามีการข่มขืนหรือไม่ ต้องรอผลการชันสูตร
วันที่ 15 พ.ค.63
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นำศพน้องชมพู่ ส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ค.63
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ตายไม่ได้พลัดหลงป่าหรือเข้าไปในป่าเพียงคนเดียว มั่นใจว่าจะมีคนนำพาตัวไปที่จุดเกิดเหตุ แต่ยังต้องรอผลการตรวจชันสูตรที่ชัดเจน เนื่องจากชันสูตร เก็บหลักฐานเบื้องต้น ยังไม่พบหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการทำร้าย หรือการข่มขืน
นางสมควร หลาบโพธิ์ อายุ 64 ปี ยายของผู้ตาย ออกมายืนยันว่า ในครอบครัวผู้ตาย ไม่มีปัญหากับคนในหมู่บ้าน ไม่เคยขัดแย้งกับใคร
นายณรินทร์ หลาบโพธิ์ อายุ 35 ปี น้าชายและญาติของน้องชมพู่ เผยว่า ผลจากการผ่าศพพิสูจน์โดยแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี สภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอผลอย่างเป็นทางการจากทางห้องแล็บนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
วันที่ 18 พ.ค.63
นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล อายุ 44 ปี ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรศพน้องชมพู่ รอบ 2 มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่ตรงไหนยังไม่ทราบ (อ่านต่อ ผลชันสูตรศพ “น้องชมพู่” รอบ 2 พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ)
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม นำตัวผู้ที่ต้องสงสัยทั้งหมด 7 คน เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจสอบ
พยาน เด็ก 7 ขวบ อ้างว่า เห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อสีส้มแขนยาว มีหมวกสีดำเหมือนคนตัดอ้อย ปิดหน้าไว้ อุ้มน้องชมพู่มุ่งหน้าไปทางไร่มัน
วันที่ 19 พ.ค.63
แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ยืนยันผลการตรวจชันสูตรน้องชมพู่ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และการล่วงละเมิดทางเพศ ระบุเพียง “ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ” ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเกิดจากทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิด หรือสาเหตุใดแน่ชัด
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. นำคณะลงพื้นที่ จ.มุกดาหาร จากนั้นนำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมสำรวจเส้นทางที่คาดว่าน้องชมพู่หายตัวไป
วันที่ 20 พ.ค.63
ครอบครัวเผาศพน้องชมพู่ ที่ป่าช้าบ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ในรูปแบบการเผาแบบเชิงตะกอนแบบโบราณ
นายแอ๋ม อายุ 32 ปี 1 ใน 7 ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการตายน้องชมพู่ ยันไม่ได้ก่อเหตุ รู้สึกเจ็บปวดถูกหาว่าเป็นฆาตกร
วันที่ 21 พ.ค.63
ตำรวจเริ่มตีวงแคบหลังจำกัดวงผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่เหลือ 2 คน หลังคนแรกคำให้การมีความน่าสงสัย คนที่สอง เคยมีประวัติคดีทางเพศและคลิปลามกในมือถือ โดยยังรอผลตรวจดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบอีกที
วันที่ 25 มิ.ย.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.เผย “นริน เชื้อคมตา” ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย คดี “น้องชมพู่” ชี้ดำเนินการไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ ยันไม่มีการจับแพะและไม่เคยทำด้วย
ตำรวจจับกุม ชายสติไม่สมประกอบ เดินแบกกระสอบปุ๋ย อยู่ในหมู่บ้านกกกอก ตรวจค้นภายในกระสอบปุ๋ยพบภาพโป๊และเสื้อของเด็ก พร้อมเส้นผมจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้ตรวจสอบหาหลักฐาน
วันที่ 26 มิ.ย.63
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร แถลงชี้แจงกรณีรับตัวชายเร่ร่อน มีอาการกลัวคนจะมาทำร้าย มีความผิดปกติของคลื่นหัวใจ มีค่าครีเอตินินสูง ต้องรักษาอาการทางกายก่อนรักษาอาการทางจิต
วันที่ 7 ก.ค.63
แฮชแท็ก #น้องชมพู่ พุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 ของทวิตเตอร์ประเทศไทย หลังจาก “ลุงพล” ไปออกรายการดัง เปิดใจเกี่ยวกับกรณีถูกสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องชมพู่ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าล้านเปอร์เซ็นต์ รักเหมือนลูกตัวเอง พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกต พ่อแม่ น้องชมพู่
วันที่ 8 ก.ค.63
พ่อแม่ “น้องชมพู่” เปิดใจเหตุสงสัยในตัว “ลุงพล” พบพิรุธหลายประเด็น ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน มั่นใจ “น้องสะดิ้ง” ลูกสาวไม่โกหก
วันที่ 9 ก.ค.63
พ่อแม่ “น้องชมพู่” รับคำท้า “ลุงพล” สาบานต่อหน้าวัดพระแก้ว ยืนยันไม่ได้ฆ่าลูก ด้านลุงพล สาบานต่อหน้า “หลวงปู่ลิ้น” วัดถ้ำภูผาแอก ยันไม่ได้ฆ่าหลาน
วันที่ 10 ก.ค.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เผยความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ 80% แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีน้อยมาก ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนสาเหตุการชีวิตของน้องชมพู่ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ แพทย์นิติเวชก็ยังสรุปไม่ได้
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยตำรวจสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ไปแล้ว 900 กว่าปาก
แม่น้องชมพู่ เผยเหตุผล ให้ “สะดิ้ง” ลูกคนโตโกหกว่าหลับ ในวันที่น้องหายตัว เพราะไม่อยากให้คนร้ายรู้ว่ารับรู้หรือเห็นอะไร กลัวว่าลูกจะมีอันตราย
วันที่ 11 ก.ค.63
แม่น้องชมพู่ แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน หลังมีคนอ้างชื่อตำรวจยศใหญ่เรียกเงิน เสนอตัวจะช่วยคดี “น้องชมพู่”
โซเชียลแชร์ภาพ “ลุงพล” สมัยเป็นหนุ่ม มีแววหล่อระดับดารา
วันที่ 21 ก.ค.63
พบ “เสื้อสีส้ม” ซุกอยู่ข้างกอไผ่ ใกล้ที่พบศพ “น้องชมพู่” บนภูเหล็กไฟ
วันที่ 22 ก.ค.63
เจ้าของเสื้อสีส้ม ที่พบในป่าไผ่ ยอมรับเป็นเสื้อของตนเอง ได้ถอดเสื้อทิ้งขณะไปหาหน่อไม้เมื่อปลายปี 2562
วันที่ 28 ก.ค.63
ตายาย “น้องชมพู่” นำลูก หลาน ลูกเขย คนในครอบครัว ดื่มน้ำสาบานที่วัดถ้ำภูผาแอก หลายคนตั้งข้อสงสัย ลุงพล ปักธูปกลับหัว
“หมอปลา” แจงเป็นคนบอกให้ “ลุงพล” ปักธูปกลับหัว ในพิธีกล่าววาจาสาบาน ว่าไม่เกี่ยวการตาย “น้องชมพู่” ทำไปเพื่อแก้คุณไสย จากผู้ไม่หวังดี
วันที่ 18 ส.ค.63
ตำรวจได้นำกล้องหน้ารถของ น้าเสริม ซึ่งเป็นน้าชายของ น้องชมพู่ ไปตรวจสอบเหตุการณ์ในวันที่น้องชมพู่หายตัว
วันที่ 26 ส.ค.63
เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัว พ่อน้องชมพู่ สอบปากคำ
วันที่ 25 ก.ย.63
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวความคืบหน้าคดีว่า ตำรวจยังคงสืบสวนสอบสวนคดีน้องชมพู่อยู่ และไม่ได้ทิ้งคดีดังกล่าวแต่อย่างใด ยันยึดพยานหลักฐาน
วันที่ 26 ก.ย.63
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกสอบปากคำ ลุงพล หลังตรวจสอบเรื่องกระสอบท้ายรถ
ทั้งหมดคือภาพรวมล่าสุด ก่อนที่ในเวลา 13.00 น. วันนี้ (2 ต.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะแถลงความคืบหน้า “คดีน้องชมพู่” ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าทางพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปประมาณ 99%
โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ จะอธิบายถึงบทสรุปทางคดีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ และจะแจกคลิปวิดีโอพรีเซ็นเทชั่นเล่าถึงการเชื่อมโยงต่างๆ ส่วนเรื่องพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มีความคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 99 อีกร้อยละ 1 ยังเหลือผลตรวจเส้นผมที่หล่นอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพน้องชมพู่ ซึ่งส่งไปตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ เพื่อตรวจหาเจ้าของเส้นผมดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากรูปคดีตำรวจถึงขณะนี้ สรุปได้ว่า มีคนร้ายที่อุ้มตัวน้องชมพู่ออกไปจากบ้านแน่นอน โดยคนร้ายเป็นคนใกล้ชิด มีความคุ้นเคยกับน้องชมพู่เป็นอย่างดี ที่สำคัญจากการตรวจสอบพฤติกรรมน้องชมพู่ไม่เคยไปไหนด้วยตัวเอง และยอมให้ไม่กี่คนอุ้มได้ ที่ผ่านมาเคยมีพยานยืนยันว่า คนในหมู่บ้านด้วยกันเองมาขออุ้มน้องชมพู่ก็ไม่ยอมให้อุ้ม เอาแต่ร้องไห้
ดังนั้นสรุปคดีว่า เด็กไม่ได้หลงแล้วไปเสียชีวิตเองแน่นอน คนร้ายมีความใกล้ชิดเข้านอกออกในบ้านได้ รวมทั้งรู้จักพื้นที่ภูเหล็กไฟ ที่นำศพไปทิ้งด้วย เพียงแต่ในขณะนี้มูลเหตุจูงใจอาจไม่ตั้งใจที่จะฆาตกรรม
ลุ้นระทึกรอติดตามโดยพลัน !