ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งจำคุก “วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์” อดีตอธิบดีกรมการปกครอง 3 ปี ไม่รอลงอาญา ทุจริตการสอบนายอำเภอปี 52 ส่วนผู้เข้าสอบ103 คน โดนคุกกราวรูดคนละ 2 ปี โดยให้รอลงอาญา 2 ปี
วันที่ 29 ก.ย.63 ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 ,นายสำราญ ตันเรืองศรี อดีต ผ.อ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านจำเลยที่ 2 นายครรชิต สลับแสง อดีตเลขานุการกรมการปกครองจำเลยที่ 3 กับพวกรวม 119 คน (จำเลยที่ 4-119 เป็นผู้สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ มีนายคิม ปรีเปรม อดีตเลขานุการส่วนตัวของอดีตอธิบดีกรมการปกครองเป็นจำเลยที่ 117
โดยคำฟ้องระบุว่า ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองและจำเลยที่ 2 ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน สำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต โดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 ร่วมช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำผิด กล่าวคือ จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกับนายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ซึ่งมีหน้าที่จัดระบบและบริหารงานบุคคลตลอดจนรับผิดชอบการคัดเลือกข้าราชการเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ
ในขณะนั้นวางแผนและกระทำการช่วยเหลือผู้เข้าทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 ตามรายชื่อจำนวน 150 รายชื่อที่ จำเลยที่ 3 นำมาให้เป็นผู้ผ่านการทดสอบคัดเลือก ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของผู้มีอำนาจการเมืองขณะนั้นโดยจำเลยที่ 1 และนายวุฒิชัย ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยได้ทำการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ความสามารถทั่วไปที่นายวุฒิชัย เป็นผู้ออกข้อสอบข้อหนึ่งและคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกข้อสอบอีกข้อหนึ่ง เพื่อใช้ในการทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 เพื่อให้จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัยจะได้เป็นผู้มีหน้าที่ในการตรวจข้อสอบ
การกระทำของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัย เสาวโกมุท เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต ตลอดจนปลอมแปลงเอกสารและทำเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กรมการปกครองและบุคคลอื่นที่เข้าทำการทดสอบแต่ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 รวมถึงบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 และนายชูชีพ มหโชค ซึ่งมิใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
เหตุเกิดที่ กรมการปกครอง แขวงราชบพิธ เขตพระนคร และเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร, ค่ายธนะรัชต์ ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรีจังหวัดปทุมธานี, ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เกี่ยวพันกันขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 161,162
โดยศาลพิเคราะห์เเล้วมีคำพิพากษาจำคุก อดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.)157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ,ป.อ.มาตรา 161 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือดูแลรักหษาเอกสารทำการปลอมเอกสารฯ,ป.อ.มาตรา 162 (1)(4)
ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารฯซึ่งได้กระทำการด้วยการรับรองอันเป็นเท็จฯ ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักสุด ให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษ สำหรับ อดีตผอ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าทีรัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่2 ผิดตามป.อ. มาตรา 157,162(1)(4) ให้ลงโทษตามมาตรา157ที่เป็นบทหนักสุด จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษเช่นกัน
ส่วน อดีตเลขานุการกรมฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่3 ผิดตามป.อ.มาตรา 157,162(1)(4) ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิด จึงให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุน ตาม มาตรา157, 86 กลุ่มประธานรุ่นและเลขารุ่นที่ไปช่วยเปลี่ยนข้อสอบ
ซึ่งประกอบด้วย จำเลยที่ 48,76,103,117,119 พิพากษาลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157,162(1)(4) ประกอบมาตรา 86 ให้จำคุกคนละ 2 ปี ไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุนตามมาตรา157 ,86 อันเป็นบทหนักสุด
และกลุ่มผู้เข้าสอบที่ไม่ยอมรับว่ามีการเขียนข้อสอบใหม่ รวม 103 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 4-6,8-18,20-39,41-47,49-72,74-75,78-79,81-102,104,106-116,118 มีความผิดตามฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157 ,161 ประกอบมาตรา 86 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนันสนุนกระทำความผิดตามมาตรา 157 ประกอบ 86 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 12,000 บาท
โดยโทษจำคุกนั้น ให้รอการลงโทษไว้กำหนดคงละ 2 ปี และพิพากษายกฟ้อง จำเลยที่ 7,37,40,73,77,80,105 ที่เป็นผู้เข้าสอบนั้นพยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิด