“โบว์” ณัฏฐา เขียนถึง เพื่อนร่วมอุดมการณ์ เผย “วัฒนา” โทรมาบอก มีคนเตือนให้ “รีบหนี” เพราะรู้ล่วงหน้า คำสั่งศาลจะให้ ติดคุกตลอดชีวิต แต่ เจ้าตัว ลั่น”ไม่หนี”เพราะมั่นใจ ในพยาน หลักฐาน เชื่อบริสุทธิ์
วันที่ 24 ก.ย.63 โบว์ หรือ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความ โดยระบุถึง นายวัฒนา เมืองสุข ซึ่งถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินให้มีความผิด ในคดีโครงการทุจริตบ้านเอื้อาทร 50ปี ว่า ฐานะเพื่อนร่วมอุดมการณ์ โดยได้ระบุข้อความว่า
เขียนในฐานะเพื่อนร่วมอุดมการณ์
เมื่อเช้า 8.25 นาที คุณวัฒนา โทรมาบอกว่า มีการส่งข่าวให้รีบหนีเถอะ ศาลจะตัดสินจำคุกตลอดชีวิต คำตอบคือ “ไม่หนี จะไปศาล” นั่นคือ แนวทางที่เราสนับสนุนมาตลอด ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ คตส.ตั้งเรื่องหลังรัฐประหาร 49 ป.ป.ช.ชี้มูลหลังรัฐประหาร 57 จนสุดท้ายคดีที่ไม่มีความซับซ้อนมาถึงศาลในที่สุด คำว่า “หนี” ไม่เคยอยู่ในทางเลือก ไม่ใช่เพียงเพราะความเป็นนักกฎหมายที่สอบเนติบัณฑิตได้ลำดับ 7 แล้วสู้คดีด้วยตนเอง หรือ ความเชื่อมั่นว่า ความยุติธรรมนั้นมีอยู่ลึกๆ ในใจนักกฎหมายทุกคน
แต่เป็นเพราะทุกข้อกล่าวหาในคดีนี้เป็นข้อกล่าวหาที่ตรงข้ามกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ชนิดที่เรียกว่า “ถ้าเป็นคดีปกติก็ไม่มีทางมาถึงศาลได้” เขาเชื่อในความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่ความน่าเห็นใจของ “นักการเมือง” ก็คือ เมื่อเป็นคดีที่ถูกแปะฉลาก ว่าทุจริต ไม่ใช่คดีแบบเราๆ ที่เป็นนักกิจกรรม ความเห็นใจจากสังคมก็แทบไม่มี และยังต้องอดทนกับศาลเตี้ย และ การดูหมิ่นจากสังคมมาตลอด 14 ปี ทั้งที่เนื้อหาของคดีไม่มีน้ำหนักเพียงพอจะมาถึงศาลได้
เขาพูดตลอดว่า ปกติคดีอาญาต้องมีพยานหลักฐานพิสูจน์จนสิ้นสงสัย จึงจะเอาผิดได้ แต่ไม่ใช่คดีของคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ เขาต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่เพียง 100% แต่ต้องทำให้ได้ 200% ซึ่ง เขาก็มั่นใจว่าทำได้เช่นนั้น ตามความจริงซึ่งมีหนึ่งเดียว จึงไม่เคยประวิงเวลาใดๆ เดินขึ้นศาลด้วยความเชื่อมั่นจนวันสุดท้าย แม้กระทั่งเช้านี้ ที่รู้ข่าวคำพิพากษาล่วงหน้า
โบว์เคยถามว่า ทำไมไม่เอาข้อเท็จจริงมาเปิดเผย สังคมจะได้รับรู้ไปพร้อมๆ กัน เพราะหลักการพิจารณาคดี ก็ต้องโปร่งใสอยู่แล้ว เขาบอกว่าต้องเคารพคำสั่งศาล ที่ห้ามการสื่อสารทุกอย่าง เกี่ยวกับคดีระหว่างการพิจารณา แน่นอนว่า ศาลก็ไม่สามารถห้ามการค่อนขอด หรือ การแชร์ข้อมูลเท็จ เช่นรูปโครงการที่เกิดในสมัยรัฐบาลอื่น หลังการรัฐประหารเพื่อดิสเครดิตกันได้เลย
หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิดของวันนี้ วัฒนา เมืองสุข คงอยากขอบคุณ กัลยาณมิตรทุกคน ที่ยืนเคียงข้างกันมาตลอดแม้ไม่ได้เอ่ยนาม คงอยากให้ลูกๆ ทุกคนได้ภูมิใจในความเป็นนักสู้ของพ่อ ที่ไม่เคยโอ้อวด แต่แสดงให้เห็นจริงด้วยการยืนบนความถูกต้องเพื่อหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ยอมรับการต่อรองใดๆ ตั้งแต่ต้นจนสุดทาง และสิ่งสุดท้ายที่คุณวัฒนาพยายามทำจนถึงเมื่อวาน ก็คือการต่อสู้เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
เขาบอกว่า นั่นคือ สิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำไว้ให้คนรุ่นหลังในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง