รมช.มหาดไทย เปิดงาน ระดมความเห็น พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทย และ จชต. เร่งทุกภาคส่วน เบิกจ่าย งบฯปี 64-65 ให้เกิดประโยชน์ เผยที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 จึงขอให้ หาแนวทางปรับตัวฝ่าฟันไปให้ได้
วันที่ 18 ก.ย.63 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธาน การประชุมระดมความคิดเห็น ติดตามผลการดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและชายแดนภาคใต้ ในช่วงปีงบประมาณ 2564-2565 ณ โรงแรมเซาท์เทิร์นแอร์พอร์ต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผวจ.สงขลา รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วย จ.สุราษฏร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม และ รายงายผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปีงบประมาณ 2563 รวมถึงการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2564-2565
นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวเปิดงานว่า ภาพเศรษฐกิจของภาคใต้โดยรวม จะเห็นว่าเครื่องจักรทุกตัวอ่อนกำลังลง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากการใช้จ่ายจากภาครัฐ รวมถึงภาคการเกษตร โดยเฉพาะในเรื่องของราคายาง ที่ยังพอกระเตื้องอยู่บ้าง แต่ยังต้องจับตาดูต่อไป แต่อย่างน้อยเมื่อราคายางสูงขึ้น ทำให้คนกลุ่มหนึ่ง ยังพอมีสภาพคล่องอยู่บ้าง ขณะภาคการท่องเที่ยวยังคงมีผลกระทบมากที่สุด ดังนั้นจึงพอสรุปภาพรวมถึงสถานการณ์ปีหน้า จะมีผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ และการเจริญเติบโตอย่างอื่นก็ยังน่าเป็นห่วง
การใข้จ่ายภาครัฐที่ผ่านมา ต้องอาศัยงบประมาณในพื้นที่ การเบิกจ่ายต้องมีการเร่งรัด ครม.เองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ จึงถือโอกาสนี้ เน้นย้ำสิ่งสำคัญ คือ การเร่งเบิกจ่ายจากภาครัฐ มีความสำคัญกับเศรษฐกิจภาคใต้ จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน และเกิดการใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคใต้ ดังนั้นในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด จึงต้องคิดว่าทำอย่างไรจะใช้งบประมาณให้ตรงจุดได้มากที่สุด จึงต้องเข้าใจสถานการณ์โดยรวม ในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด เพื่อจัดทำงบประมาณของจังหวัด
ทั้งนี้ รมช.มหาดไทย ได้มอบแนวทางการดำเนินงานพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในช่วงปี 2564 -2565 ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและแก้ไขปัญหาของพื้นที่ รวมทั้งรับฟังข้อเสนอ จากถาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคเอกชน ที่มีแนวคิดทันสมัย เพื่อให้มีการวางแผนและจัดทำโครงการให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ในระยะที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก สาเหตุหนึ่งมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งส่งผลให้หลายกิจกรรมของโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์คลี่คลายทุกภาคส่วนจำเป็นต้องวางแผนการพัฒนาและเร่งดำเนินงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในแผน
หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรมีการโอนเปลี่ยนแปลงโครงการในงบประมาณ ซึ่งจะทำให้แผนที่วางไว้ไม่มีการนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ สำหรับการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดไม่ควรมีลักษณะต่างคนต่างทำ และเป็นการหารแบ่งงบประมาณ ควรมีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง เริ่มจากการประเมินผลการพัฒนาของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดระยะที่ผ่านมา เทียบกับเป้าหมายของแผนว่าสามารถดำเนินการเข้าใกล้เป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด และมีปัจจัยใดที่เป็นปัญหาและอุปสรรคการดำเนินงาน และร่วมกันคิดร่วมกันค้นหาว่ามีประเด็นหลักสำคัญอะไร ที่จะสื่อถึงการบรรลุเป้าหมายของแผนแล้วมาร่วมกันพิจารณาว่าใครควรทำอะไรในส่วนที่ตัวเองมีภารกิจ และควรที่จะชวนหน่วยงานอื่นมาร่วมกับตนเองได้อย่างไร มีการแบ่งปันข้อมูลกันเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายร่วมกันในแต่ละเรื่องตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดไว้ในแผนรวม ทั้งพิจารณาถึงความเชื่อมโยงสอดคล้องของแผนในแต่ละระดับอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการบูรณาการการทำงานร่วมกับศอ.บต
นอกจากนี้ ส่วนราชการทุกหน่วย ต้องวิเคราะห์สถานการณ์แต่ละเรื่องที่เป็นจุดเน้นของแผนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถแยกแยะจุดอ่อนจุดแข็งเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาเมื่อเกิดการบูรณาการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ตลอดจนมีความเป็นระบบที่สมบูรณ์ขึ้นกับเรื่องการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ลดความซ้ำซ้อนและตอบสนองปัญหาความต้องการได้อย่างตรงจุด ตรงประเด็นตามศักยภาพโอกาสเพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนา ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ