ทนายดัง ทรงพจน์ เอกนิติภูมิ ฟ้องหมิ่นประมาทสมัย เจริญช่าง อดีตกรรมการกลางอิสลามฯกล่างหายุ่มย่าม ล่วงเกินกอจ.ปทุมธานี ระบุ ยื่นฟ้องกอจ.ปทุม เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ถูกกล่าวหาสร้างความแตกแยก เป็นบุคคลชั่วร้าย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่สน.ลำผักชี กรุงเทพฯ นายทรงพจน์ เอกนิติภูมิ ทนายความ อยู่แขวงโคกแฝด หนองจอก กรุงเทพฯ ได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีนายสมัย เจริญช่าง รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ อดีตกรรมการกลางอิสลามฯ ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยนายทรงพจน์ ได้ระบุในการแจ้งความว่า ได้รับทรบว่า เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 นายสมัย ได้โพสต์ลงในกลุ่มไลน์ CICOT’61 ซึ่งเป็นกลุ่มไลน์ของคณะกรรมการกลางอิสลามฯ มีสมาชิกทั้งหมด 52 คน ระบุว่า เรียนท่าน กอท. ผมมีความเห็นว่า บุคคลที่เข้าไปยุ่มย่ามก่อความรำคาญให้กับองค์กรบริหารกิจการศาสนาอิสลาม เช่น กอจ.ต่างๆ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ผู้เสียหาย พวกเราน่าจะมีมาตรการเว้นระยะห่าง อย่าให้เข้ามาเกี่ยวข้องในอนุกรรมการ หรือคณะทำงานของต่างๆในองค์กร กอท. มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่า พวกเราสนับสนุนเป็นใจให้คนบางชนิดก่อกรรมกับสังคมมุสลิม จะเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างองค์กรได้โดยง่าย ได้โปรดพิจารณาด้วยครับ ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่กอจ.ปทุมธานี โดยก้าวล่วง พร้อมปรากฎสำเนาภาพถ่ายและเอกสารแนบ เป็นลิงค์ข่าวของ www. Mtoday.co.th/54936
นายทรงพจน์ ระบุต่อว่า เมื่อพิจารณาสำเนาภาพถ่าย และข้อความที่นายสมัย ระบุนั้น คำว่า ก้าวล่วง มีความหมายว่า ละเมิด และคำว่าละเมิดมีความหมายว่า ล่วงเกิน หรือฝ่าฝืนจารีตประเพณี หรือกฎหมายที่บัญญัติไว้ จงใจหรือประมาทเลิ่นเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ดังนั้น ข้อความที่นายสมัย กล่าวถึงคือ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปทุมธานี ถูกล่วงเกิน และหมายถึงนายทรงพจน์ เป็นผู้ล่วงเกิน ซึ่งเป็นข้อความกล่าวหาอันเป็นเท็จ
‘ข้าพเจ้าเป็นประชาชนชาวไทย ย่อมมีสิทธิ์หน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่จะต้องรักษาไว้วึ่างชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เมื่อพบการกระทำความผิดอาญาแผ่นดินและเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลามข้าพเจ้าย่อมมีหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และมีสิทธิตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้แก่ประชาชนบุคคลทั่วไป ที่สามารถกล่าวโทษผู้กระทำผิดอาญาแผ่นดินต่อทางราชการได้ การกระทำของข้าพเจ้า จึงไม่ใช่การแส่ หรือยุ่ามย่ามกับองค์กรมุสลิม ไม่ได้เป็นการทำการโดยไม่มีกฎหมายรองรับ และพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นการก่อกรรมกับสังคมมุสลิม หรือการละเมิดต่อกอจ.ปทุมธานี ดังที่นายสมัยใส่ความ หากแต่เป็นยการกระทำที่จะช่วยให้องค์กรศาสนามีความมั่นคงขึ้น และจะเป็นตัวอย่างแก่องค์กรศาสนาอื่นได้ตระหนักว่า การกระทำผิดต่อระเบียบและกฎหมาย อาจทำให้ถูกดำเนินคดีอาญาได้ ไม่ใช่เป็นองค์กรศาสนาแล้วจะมีมติได้ตามอำเภอใจ ไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายดังที่เคยเข้าใจกันมานาน’ นายทรงพจน์ ระบุ
นายทรงพจน์ ระบุในคำแจ้งความด้วยว่า ข้อความที่นายสมัย ใส่ความตนเอง ทำให้คณะกรรมการกลางอิสลามฯ ทั้งหมดที่ปรากฎรายชื่อในกลุ่ม CICOT’61 จำนวน 52 คนเห็นข้อความ และเข้าใจว่า ตนเป็นคนไม่ดีชอบวุ่นวายเรื่องชาวบ้านโดยไม่มีอำนาจ เป็นบุคคลที่ล่วงละเมิดต่อกอจ.ปทุมธานี เป็นบุคคลก่อกรรมต่อสังคมมุสลิม และเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมมุสลิม การใส่ความต่อบุคคลที่เป็นมุสลิมด้วยกันในเรื่องร้ายแรง โดยหลักศาสนาอิสลามถือว่า เป็นบุคคลที่ชั่วร้ายเลวทรามมาก การกระทำของนายสมัย จึงเป็นการใส่ร้ายและนำความเท็จมาหมิ่นประมาทตน ทำให้เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นกระทำผิดกฎหมายอาญา ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด