เตรียมยื่นฎีกาในหลวงยับยั้ง ใช้ศาสนาสร้างความแตกแยก เลขากอท.ยันใช้งบโปร่งใส

เลขาธิการกอท. ยืนยันการใช้งบขององค์กรโปร่งใส มีบริษัทตรวจสอบบัญชีตรวจสอบรับรอง เปิด 3 คน ตามมติที่ประชุม เพื่อทำงานให้ส่วนราชการ พร้อมเตรียมถวายฎีกายับยั้งการใช้ศาสนาสร้างความแตกแยก หลังส่วราชการไม่ทำงาน

พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางแห่งประเทศไทย (กอจ.)ได้ชี้แจงถึงการตั้งข้อสังเกตถึงการใช้งบประมาณของคณะกรรมการกลางอิสลามฯว่า คณะกรรมการกลางฯไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล มีเพียงเบี้ยประชุมเดือนละประมาณ 1,000 บาทต่อคน ซึ่งไม่เพียงพอ รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากการตรวจรับรองฮาลาล และงบจากการจัดทำโครงการให้กรมส่งเสริมการส่งออก ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องฮาลาล

‘มีความพยายามโจมตีเพื่อทำลายระบบการรับรองฮาลาล เพื่อให้องค์กรไม่สามารถทำงานได้ โดยเฉพาะตัวผม ซึ่มีตำแหน่งทางการเมือง ได้ทำหน้าที่ในสภา ในการสร้างความเข้าใจในหลายประเด็นที่อิสลามถูกโจมจี จึงตกเป็นเป้าของการทำลาย’ พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าว และว่า ในการใช้จ่ายคณะกรรมการกลางฯ มีบริษัทตรวจสอบบัญชีเข้ามาตรวจสอบ ยืนยันได้ถึงความโปร่งใส

ส่วนที่มีการเปิดบัญชีธนาคารในนามกรรมการกลางฯ 3 คน พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าวว่า เป็นการเปิดบัญชีเพื่อรับเงินโครงการจากภาครัฐ อาทิ จากกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นไปตามมติกอท. และการเบิกจ่ายเป็นไปตามระเบียบราชการ ที่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด

พล.ต.ต.สุรินทร์ ยังกล่าวด้วยว่า ในการแก้ปัญหากลุ่มผู้เไม่หวังดีนำข้อมูลอันเป็นเท็จโจมตีเพื่อหวังอิสลามและสร้างความแตกแยกในสังคม ได้อภิปรายในสภาแล้ว ได้ร้องเรียนไปยังส่วนราชการแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการเพื่อหยุดยั้งขบวนการดังกล่าว หวั่นว่า ในอนาคตจะมีเกิดการเกลียดชังที่นำไปสู่ความรุนแรง สังคมไทยที่อยู่ด้วยกันอย่างสันติก็จะเกิดความแตกแยก จึงเตรียมที่จะถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะองค์ ศาสนูปถัมภก พึ่งบารมีของพระองค์ท่านในการปัดเป่าไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม