จับตา ปมร้อน ทางการเมือง ผ่านปรากฏการณ์ ประชาธิปัตย์ ผนึกกำลัง พรรคก้าวไกล ชง แก้ไข ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ โดยไร้เงา เพื่อไทย และ พลังประชารัฐ
หลังจากมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ส่วนหนึ่ง ออกมาขานรับ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า จะไม่ขวางการแก้ไข “มาตรา 272” เกี่ยวกับอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตามที่กระแสสังคมเรียกร้อง ด้วยเห็นว่า ส.ว.ชุดนี้ เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย อย่างที่ควรจะเป็น
ล่าสุด วันที่ 8 ก.ย.63 กลุ่ม ส.ส.ประชาธิปัตย์ และ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนหลัก ก็ได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส. ได้ 99 รายชื่อ ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ยกเลิกมาตรา 272 ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในจำนวน 99 รายชื่อนั้น ประกอบด้วย ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลรวม 13 พรรค …ในซีกฝ่ายค้านประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 54 คน พรรคประชาชาติ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรคเสรีรวมไทย 10 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน
ส่วน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ 16 คน พรรคภูมิใจไทย 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน นอกนั้นเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อจาก “กลุ่มพรรคเล็ก” ได้แก่ “ดำรงค์ พิเดช” พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” พรรคไทยศรีวิไลย์ “พีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค” พรรคไทรักธรรม “พิเชษฐ สถิรชวาล” พรรคประชาธรรมไทย และ “สุรทิน พิจารณ์” พรรคประชาธิปไตยใหม่
เป็นที่น่าสังเกตว่าก่อนหน้านี้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ออกมาประกาศเสนอแก้ มาตรา 272 นั้น เรียกตัวเองว่า เป็น “กลุ่มกบฏ ปชป.” ที่นำโดย “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ตรัง “เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.นครศรีธรรมราช “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี “พนิต วิกิตเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งกลุ่มนี้ปกติจะมีไม่ถึง 10 คนที่ออกมาเคลื่อนไหวแบบไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรค แต่ครั้งนี้กลับมีถึง 20 คน ซึ่งภายหลัง ส.ส.สุราษฎร์ธานี มาขอถอนชื่อออก 4 คน จึงเหลือเพียง 16 คน …
หรือว่าพรรคหลับตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้ ส.ส.มาร่วมลงชื่อเสนอญัตติ ทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลมีมติไปแล้วว่า เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงร่างเดียว คือ แก้มาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
อีกข้อสังเกตที่พูดถึงกันมาก คือ ญัตตินี้ไม่มีชื่อ ส.ส.จาก “พรรคเพื่อไทย” ที่เป็นแกนนำฝ่ายค้าน และ “พรรคพลังประชารัฐ” แกนนำฝ่ายรัฐบาล ร่วมลงชื่อแม้แต่คนเดียว!!
อาจมองได้ว่า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล หรือ พรรคอนาคตใหม่ (เดิม) มีการ “ขบเหลี่ยม” กันมาตลอด ทั้งในด้านบทบาทการนำในสภา นอกสภา หรือ แย่งชิงฐานเสียงมวลชน…เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ “พรรคก้าวไกล” ก็ไม่ร่วมลงชื่อสนับสนุน โดยอ้างว่าร่างแก้ไขนี้ มีข้อจำกัดเรื่องไม่แตะ หมวด 1 หมวด 2 และ อำนาจ ส.ว.
เมื่อพรรคก้าวไกล ยื่นแก้ไข มาตรา 272 ตามกระแสเรียกร้องของกลุ่มประชาชนปลดแอก ที่ กำลังเคลื่อนไหวชุมนุมอยู่ในขณะนี้ “พรรคเพื่อไทย” จึงไม่ร่วมลงชื่อด้วย ซึ่งอาจจะอ้างว่าไม่ต้องการ “เดินตามเด็ก” หรือ อาจจะมีข้ออ้างว่า รายละเอียดในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ตรงกับแนวทางของพรรค ซึ่งทางพรรคอาจเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมไปอีกในภายหลังก็ได้
เป็นประเด็นร้อนต้องติดตามกันต่อไปว่า เพื่อไทย และ พลังประชารัฐ จะมีท่าทีอย่างไร ?