“ยุทธพงศ์” แฉ มีโทรสายตรง ล็อบบี้ สั่งซื้อเรือดำน้ำ ช่วงพักเบรค 1 ชม. ชี้ ฝั่งรบ.บอกเอง “บิ๊กป.” สั่งการ ฉะ ตัวแทน กองทัพเรือ มั่วนิ่ม อ้าง เป็นการจัดซื้อ ผ่าน ระบบ จีทูจี
วันที่ 24 ส.ค.63 เวลา 11.45 น.ที่รัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีระบุมี “บิ๊กป.”ในรัฐบาลโทรศัพท์ “ล็อบบี้” สั่งการให้ให้อนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯโหวตเห็นชอบการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2ลำของกองทัพเรือ วงเงิน 22,550 ล้านบาทว่า
เรื่องนี้ทุกคนรู้กันทั้งห้อง ในช่วงที่ อนุกมธ.พักประชุม 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีการโหวตลงมติ มีการเรียก อนุกมธ.ฝ่ายรัฐบาลไปคุยกัน เชื่อว่า มีการไปล็อบบี้กันในช่วงนั้น โดยมีเพื่อน อนุกมธ.ซีกรัฐบาลบอกตนว่า มี “บิ๊กรัฐบาล” โทรศัพท์มาล็อบบี้ให้โหวตสนับสนุนการซื้อเรือดำน้ำ เชื่อว่า เรื่องนี้มีการล็อบบี้กันแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้วันที่ 17 ส.ค.2563 ที่ประชุมอนุกมธ.ประชุมกัน ทุกคนไม่มีใครเห็นด้วยให้จัดซื้อเรือดำน้ำ แต่กองทัพเรือยืนยันความจำเป็นต้องจัดซื้อ เพราะมีสัญญาจีทูจีผูกพัน และมีเอกสารการลงนามระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับรมว.กลาโหมจีน ที่ตกลงจะซื้อเรือดำน้ำ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้แขวนเรื่องนี้ไว้ก่อน โดยให้กองทัพเรือนำเอกสารเหล่านี้มาชี้แจงต่ออนุกมธ.ครั้งถัดไป
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 21 ส.ค.2563 กองทัพเรือนำเอกสารเหล่านี้มาชี้แจงต่อที่ประชุมอนุกมธ. แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า มีแค่การระบุว่า ให้ซื้อเรือดำน้ำลำที่1 แค่ลำเดียว ไม่ได้ข้อผูกพันว่า จะต้องซื้อลำที่ 2และ3 และเอกสารที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ไปลงนามร่วมกับรมว.กลาโหมจีน ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อเรือดำน้ำ ที่ สำคัญเอกสารการลงนามซื้อเรือดำน้ำลำแรก ที่ พล.ร.อ,ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผบ.ทร.ไปลงนามจัดซื้อนั้น เป็นการลงนาม กับ บริษัท ไชน่าชิปบิ้วดิ้งออฟชอว์ ถึงจะอ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ไม่ใช่รัฐบาลจีน ถือว่าเป็นการลงนามไม่ถูกต้อง ซึ่งคำพิพากษาศาลฎีกาเคยระบุไว้ในคดีจำนำข้าวว่า การทำจีทูจีต้องเป็นการทำระหว่า งรัฐต่อรัฐ เท่านั้น เรื่องนี้ต้องถึงป.ป.ช.แน่ เพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ในการประชุมอนุกมธ.วันที่ 21 ส.ค. 2563 กองทัพเรือได้ยืนยันถึงความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่สามารถเลื่อนการจัดซื้อได้อีกแล้ว แต่ปรากฏว่า การประชุมวันดังกล่าว อนุกมธ.ที่เคยคัดค้านการซื้อเรือดำน้ำ มากลับลำในสิ่งที่ตัวเองเคยพูด อนุมัติให้ซื้อเรือดำน้ำได้ จะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครสั่งมา ขอท้าให้เปิดบันทึกชวเลขในที่ประชุมวันที่ 17 ส.ค.2563 จะได้รู้ว่าใครพูดอย่างไรบ้าง
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ในช่วงที่อนุกมธ.ลงมติแล้วคะแนนเสมอกัน 4 ต่อ4นั้น ตนขอร้อง นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานอนุกมธ. ขอให้อย่าลงมติตัดสิน ให้นำเรื่องนี้ไปหาข้อยุติในที่ประชุมกมธ.งบประมาณฯชุดใหญ่ แต่นายสุพลไม่ยอม และลงมติเห็นชอบการจัดซื้อ คะแนนจึงกลายเป็น 5ต่อ4 ดังนั้นการประชุมกมธ.งบประมาณชุดใหญ่วันที่ 26 ส.ค.นี้ จะขอให้ทบทวนมติของอนุกมธ. เพราะกองทัพเรือ ชี้แจงไม่เคลียร์ สัญญาจีทูจี ไม่มีผลผูกพันกับการซื้อเรือดำน้ำ ลำที่2 และ 3 ถึงจะเป็นงบประมาณเดิมที่ตั้งไว้ตั้งแต่งบประมาณปี2563 แต่ขณะนี้ปี2564 วิกฤติโควิดยังคงอยู่ อยากให้เลื่อนการจัดซื้อไป 1ปี เพราะเรือดำน้ำลำแรกจะได้มาในปี2567 ควรรอให้ได้ลำแรกมาก่อน แล้วค่อยซื้อลำที่2และ3 หรือเลื่อนซื้อลำที่ 2-3ไปปีหน้า เพราะขณะนี้ประชาชนกำลังลำบาก