“เพนกวิน” เหิม! ไม่กราบ สถาบัน “สนธิ” สุดทน ยกอดีต สอน ให้รู้สำนึก !!

“เพนกวิน” โพสต์ กร้าว ไม่กราบ สถาบัน ลั่น เสียใจ พรรค พท.-ก้าวไกล ไม่ยอมแก้ รธน.หมวด2 อ้าง เป็น ต้นตอ ปัญหาบ้านเมืองที่ผ่านมาในรอบหลายสิบปี ขณะ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เจ้าของรายการ “ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง” ชี้หน้าสอน ถ้าไม่มีสถาบัน แผ่นดินไทย โดน” เวียตกง” ยึดไปนานแล้ว

วันที่ 23 ส.ค.63 ความเคลื่อนไหว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเยาวชนปลดแอก โพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัว “เพนกวิน – พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” ระบุว่า วันนี้ผมเสียใจมากที่ทราบว่าทุกพรรคการเมือง รวมถึงเพื่อไทยและก้าวไกลด้วยนั้นจะไม่แก้รัฐธรรมนูญในหมวดสอง หรือหมวดพระมหากษัตริย์ ทั้งที่เป็นหมวดที่มีปัญหามากและเป็นรากเหง้าของปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในหลายสิบปีที่ผ่านมา

หมวดสองของรัฐธรรมนูญนั้นมี 18 มาตรา ซึ่งผมจะขอกล่าวถึงมาตราที่ผมเห็นว่ามีปัญหามากที่สุดคือมาตรา 6 ซึ่งบัญญัติไว้มิให้ผู้ใดฟ้องร้องหรือกล่าวหาพระมหากษัตริย์ได้ในทางใดๆ ซึ่งนั่นแสดงว่าพระมหากษัตริย์จะอยู่เหนือกฎหมาย และต่อให้ทรงกระทำผิดกฎหมายก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆเลย ซึ่งขัดต่อหลักนิติรัฐที่กฎหมายจะต้องบังคับใช้กับทุกคนโดยเสมอกัน แท้จริงแล้วควรใช้หลักการที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับคณะราษฎร ก็คือให้สภาผู้แทนราษฏรพิจารณาความผิดของกษัตริย์ เพราะกษัตริย์ย่อมต้องรับผิดชอบต่อประชาชน

อีกประการหนึ่ง ผมยังเห็นว่ารัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์นี้ยังบัญญัติไว้ไม่ครบถ้วน ควรจะมีการให้กษัตริย์พระราชทานคำปฏิญาณกับประชาชนว่าจะเคารพและพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เหมือน ๆ กับที่ทำในพระราชพิธีราชาภิเษกจักรพรรดิญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และควรจะบัญญัติเพิ่มเติมห้ามมิให้กษัตริย์แทรกแซงการเมืองโดยเด็ดขาด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“ดังนั้นผมขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลให้ไม่ละเลยการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดสอง เพราะนี่คือต้นตอของปัญหาการเมืองไทย ถ้าพวกคุณไม่สู้ในประเด็นนี้ คุณก็จะแก้ปัญหาไม่จบเบ็ดเสร็จ และถ้าคุณไม่แก้ไขที่ต้นตอ คุณก็อาจจะโดนยุบพรรคซ้ำแล้วซ้ำอีก เราสามารถสู้ได้โดยไม่กราบครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ”พันธมิตร”และในฐานะ ผู้ก่อตั้ง สื่อในเครือ”ผู้จัดการ ได้จัดรายการ “ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง” เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า เพนกวิน มีสิทธิที่จะเคลื่อนไหว ต่อต้านรัฐบาล เรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ จะทำอะไรก็ทำไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ เพนกวิน ไม่เคยรับรู้ ว่า สถาบัน มีบุญคุณต่อแผนดินไทยมากน้อยแค่ไหน “นั่นเป็นเพราะ เพนกิน เกิดไม่ทัน ยังไร้เดียงสา ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ”

นายสนธิ ระบุว่า ในหลวงร.9 ทรงมีพระเนตรพระกรรณ รอบด้าน เข้าใจสถานการณ์แหลมอินโดจีน ที่ ระบบ”คอมมูน” หรือ คอมมิวนิตส์ กำลังแผ่ขยาย ครอบครองแหลมอินโดจีน หลังจาก เวียตกง ที่มีรัสเซีย หนุนหลัง ยึด ลาว และ กัมพูชาได้แล้ว ไทยจึงเป็น เป้าหมายต่อไป  โดยได้ เคลื่อน กองทัพรถถัง ประชิดชายแดนไทย

“ในหลวง ร.9 มีไมตรีใกล้ชิดกับ เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำจีน พระองค์เชิญ เติ้ง มางานผนวช ร.10 ซึ่งขณะนั้น ยังทรงเป็น พระบรมโอรสาธิราช เมื่อ เวียตกง รุกรานไทย จีนจึงช่วยเหลือไทย ด้วยการทำ สงครามสั่งสอน เวียตาม ที่ กว่างสี” นายสนธิกล่าว