“เสรี สุวรรณภานนท์” โพสต์เฟซบุ๊ก ผิดหวัง ผู้บริหารโรงเรียนวัดนวลนรดิส ปลดป้าย “พล.อ.ประยุทธ์” ออกจากโรงเรียน หลัง เกิดเหตุการณ์ “ชู3นิ้ว” ลุกลาม ชี้ ความเป็น “นวลนรดิศ” มีศักดิ์ศรี และ ไม่ควรแห่ตามกระแส
วันที่ 18 ส.ค. 63 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะนักเรียนเก่านวลนรดิศ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณี โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ปลดป้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ผมเป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนวัดนวลนรดิศ เคยเป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่านวลนรดิศมา 2 สมัย ผมรักความเป็นนวลนรดิศ ผมเห็นกระแสสังคม(ส่วนหนึ่ง) ที่ แสดงความไม่ชอบไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนวัดนวลนรดิศ เป็นความเห็นต่างที่ถูกสร้างเป็นกระแสในสังคม ความไม่ชอบและไม่พอใจดังกล่าว แสดงออกด้วยการชูมือ 3 นิ้วและผูกโบว์สีขาวที่ข้อมือ ที่ได้แสดงออกลุกลามไปถึงโรงเรียนต่างๆ
รวมถึงโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ถึงขนาดมีการถ่ายรูป และปลดป้ายที่เชิดชูยกย่องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ศิษย์เก่าที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ติดมานานหลายปีแล้ว ที่ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของเราชาวนวลนรดิศที่มีศิษย์เก่าเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ผมแปลกใจที่ครู อาจารย์ และผู้บริหารโรงเรียน ไม่อธิบาย ไม่ชี้แจงให้นักเรียนให้เข้าใจว่ามันเป็นปรากฏการณ์ปัญหาการเมือง ที่นักเรียนของโรงเรียนวัดนวลนรดิศน่าจะมีโอกาสได้รับฟังประเด็นปัญหาเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด และน่าจะทำความเข้าใจได้ง่ายกว่าสถานศึกษาอื่นๆ
การที่นักเรียนของโรงเรียนวัดนวลนรดิศจะเข้าใจไปตามกระแสอย่างไรก็ไม่ได้เป็นความผิด เพราะมันเป็นกระแสทางโซเชียลของโลกยุคใหม่ แต่ ความเป็นนวลนริศ น่าจะเป็นโรงเรียนที่น่าจะให้นักเรียนได้รับฟังเหตุผลและรับฟังปัญหาให้รอบด้าน ก่อนที่จะแสดงออกด้วยการปลดป้าย ซึ่งความเป็นนวลนรดิศหากได้อธิบายให้นักเรียนได้เข้าใจก็อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างไปจากโรงเรียนอื่นก็ได้
อยากให้นักเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศได้ทราบว่า เมื่อก่อน พล.อ.ประยุทธ์ฯ เข้ามาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะเหตุการณ์บ้านเมืองเกิดวิกฤติ ประชาชนแบ่งฝ่าย ต่อสู้ฆ่าฟันกันเอง เข้ามาด้วยความชื่นชมยินดีของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ต่อมาเมื่อมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พล.อ.ประยุทธ์ฯ ก็ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมืองและได้เสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ฯก็ทำงานมาอย่างหนักเพื่อคนไทยทั้งประเทศตลอดมา ซึ่งเชื่อได้ว่ามีประชาชน มีนักศึกษาอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ออกมาชุมนุมก็ยังคงพอใจและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ฯเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เพียงแต่ประชาชนเหล่านั้นไม่ได้ออกมาชุมนุมและไม่ได้แสดงออก ซึ่งเหตุการณ์เรื่องเหล่านี้ ควรให้นักเรียนของโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ได้ทราบ แต่พอมีคนบอกไม่ดี กลับเฮโลสาระพา บอกไม่ดีตามไปด้วย โดยที่ไม่ไตร่ตรองแยกแยะก่อนว่าสิ่งที่แสดงออกนั้นถูกต้องหรือไม่ อย่างไร ?
ผมว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ก็เป็นความคิดต่าง แต่ความเป็นนวลนรดิศ น่าจะมีความเป็นตัวของตัวเอง พิจารณายืนหยัดแสดงความเห็นต่างมันก็สามารถจะทำได้ เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพ ผมเองก็มีสิทธิ์มีเสรีภาพที่จะคิดและบอกได้ว่า การสร้างกระแสที่สร้างความเข้าใจผิด สร้างความเกลียดชัง เพื่อจะโค่นล้มให้ออกจากตำแหน่งเพื่อแย่งชิงอำนาจ มันเป็นข้อเรียกร้องของคนที่อยู่คนละฝ่ายที่อยู่คนละข้างกัน ซึ่งเป็นปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายๆครั้งในบ้านเมือง
แต่สิ่งเหล่านี้ได้ลุกลามเข้าไปในโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ซึ่งผมบอกแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่มันเป็นหน้าที่ของบรรดาครูอาจารย์และผู้บริหารโรงเรียนวัดนวลนรดิศที่ควรต้องชี้แจง อธิบาย ทำความเข้าใจให้นักเรียนทั้งหลายได้เข้าใจ ไม่ควรปล่อยให้มีการปลดป้ายนักเรียนเก่าคนหนึ่งที่สร้างคุณูปการออก ผมในฐานะนักเรียนเก่านวลนรดิศคนหนึ่ง เห็นว่ามันเป็นการไม่สมควรจริงๆ