กมธ.กม. ชง พรบ.”นิรโทษกรรม” ขจัดขัดแย้ง ตั้ง สสร.แก้รธน.

กมธ.กฎหมาย เสนอ ออกกฎหมาย “นิรโทษกรรม” ล้างผิด ทางการเมือง ให้ปชช.ทุกหมู่คณะ ยกเว้น “คดีอาญา -ทุจริต-ม.112” พร้อม แก้ รธน. ตั้ง ส.ส.ร. ยกร่างใหม่ และให้ ยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ทันที

12 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 13 ส.ค.2563 จะมีวาระสำคัญ คือ รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ ตามที่คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยจะมีการเสนอแนวทางนิรโทษกรรม เพื่อสร้างความปรองดอง มีเงื่อนไขคือ การนิรโทษกรรมเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองตั้งแต่ปี2548-ปัจจุบัน เป็นคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองเท่านั้น คือ การกระทำต่างๆของประชาชนเพื่อแสดงออกถึงความคิดทางการเมือง หรือมีเหตุจูงใจทางการเมือง ไม่รวมการทำผิดคดีอาญา ความผิด มาตรา112 และคดีทุจริตคอร์รัปชัน โดยเสนอให้ตราเป็นกฎหมายพิเศษ เช่น การออกพ.ร.ก. หรือ การออกพ.ร.บ.

ขณะเดียวกัน กมธ.ยังเสนอให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ ถูกออกแบบเพื่อการสืบทอดอำนาจ ให้มี สภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้นายกรัฐมนตรีระบุรายละเอียด เรื่องกรอบเวลาของกระบวนการแก้ไขให้ชัดเจน เมื่อแก้ไขเสร็จ ให้ยุบสภาทันที แล้วจัดเลือกตั้งใหม่ หากปล่อยเวลาให้นานไปเท่าใด การแก้ปัญหาความขัดแย้งจะเป็นไปได้ยาก ขณะที่เรื่องการทำหน้าที่ของสื่อ เสนอให้ปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่นำเสนอข้อมูล หรือ ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง ยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงต่อคู่ขัดแย้ง ส่วนเรื่องการเยียวยานั้น รัฐบาลต้องเยียวยาอย่างจริงจัง เป็นระบบ ทั่วถึงและต่อเนื่อง ครอบคลุมความเสียหายทางร่างกายและจิตใจ และชดเชยให้กลับคืนสู่สภาพเดิมมากที่สุด โดยไม่จำกัดการเยียวยาด้วยตัวเงินเท่านั้น

นอกจากนี้ ในรายงานดังกล่าว ยังมีการเสนอแนวทางให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความขัดแย้งทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน พรรคการเมือง ผู้นำชุมนุม ฝ่ายความมั่นคง สื่อมวลชน ขอโทษ ต่อ สาธารณชน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศในช่วงสถานการณ์รุนแรง หรือ นายกฯที่บริหารประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน ควรแสดงความรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะผู้นำรัฐบาล เนื่องจากรัฐมีความบกพร่อง ขาดกลไกที่มีประสิทธิภาพในการบริหารความขัดแย้งทางการเมืองให้ดำเนินไปตามครรลองสันติวิธี

นอกจากนี้ กมธ.ยังเสนอถึงทำหน้าที่ของกองทัพควรทำภารกิจของกองทัพ งดเว้นการทำรัฐประหาร หรือ แทรกแซงทางการเมือง เช่น การใช้อิทธิพลกดดันนโยบายรัฐบาล การข่มขู่ใช้กำลัง หรือ ยึดอำนาจ กองทัพต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องปลูกฝังจิตสำนึกทหารให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ในการถวายสัตย์ปฏิญาณของเหล่าทัพควรกำหนดว่า จะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ จะไม่ทำการปฏิวัติรัฐประหาร