“เนตร นาคสุข” รอง อัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้อง “บอส-วรยุทธ” ทนแรงเสียดทานไม่ไหว ยื่นหนังสือลาออกเเล้ว ก่อนจะเกษียณราชการสิ้น ก.ย.นี้ ยืนยันใช้ดุลพินิจสั่งคดีตามระเบียบและใช้เหตุผลประกอบถูกต้อง แต่ขอลาออกเพื่อลดแรงกดดันสถาบันอัยการ
วันที่ 11 ส.ค.63 เวลา 15.46 น. มีรายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดที่สั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา คดีขับรถประมาทอันเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ต่ออัยการสูงสุดเเล้ว หลังมีวาระจะเกษียนอายุราชการในเดือนกันยายน 2563
โดยหนังสือที่ นายเนตร รองอัยการสูงสุด ยื่นลาออกได้ให้เหตุผลสรุปว่า ยังยืนยันถึงการสั่งคดีดังกล่าวเป็นการใช้ดุลพินิจโดยถูกต้องถูกระเบียบปฏิบัติและใช้เหตุผลประกอบอันสมควร แต่เนื่องจากสถาบันอัยการ โดนกดดันจากสังคมจึงเห็นว่าเพื่อรักษาภาพพจน์ขององค์กร ขอแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก
สำหรับ นายเนตร นาคสุข จะครบกำหนดวาระการบริหารเนื่องจากอายุครบ 65 ปี วันที่ 30 ก.ย. 2563 นี้ ซึ่งเมื่อครบวาระตำเเหน่งบริหารแล้ว ยังสามารถขอต่อเป็นอัยการอาวุโสได้จนครบอายุ 70 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการอัยการ ก.อ.ซึ่งตาม พ.ร.บ.ข้าราชการฝ่ายอัยการมาตรา 58 บัญญัติว่า ข้าราชการอัยการผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปชั้นหนึ่งเพื่อให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณา เมื่ออัยการสูงสุดสั่งอนุญาตแล้วให้ถือว่าพ้นจากตำแหน่ง
ในกรณีที่ข้าราชการอัยการขอลาออก เพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเพื่อสมัครรับเลือกตั้ง หรือ รับการเสนอชื่อเพื่อสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ เพื่อไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ผู้นั้นขอลาออก จากกรณีตามวรรคสองถ้าอัยการสูงสุดเห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการจะยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกินสามเดือนนับ แต่วันขอลาออกก็ได้ ในกรณีที่อัยการสูงสุดประสงค์จะลาออกจากราชการให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อ ก.อ. เพื่อให้ ก.อ.เป็นผู้พิจารณานั้นขอลาออกอย่างไรก็ตามยังไม่ปรากฎว่าขณะนี้อัยการสูงสุดเซ็นคำสั่งอนุญาตหนังสือลาออกของนายเนตรดังกล่าว
ขณะที่เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา อัยการสูงสุด ได้ มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1400/2563 ลงวันที่ 4 ส.ค. 2563 แต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานพิจารณา มีคำสั่งคดีอาญาสำนวน ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 โดยมีคณะทำงานประกอบด้วย นายอิทธิพร แก้วทิพย์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน, นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน, นายอุทัย สังขจร เป็นคณะทำงาน, นายประยุทธ เพชรคุณ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ, นายนรา เขมอุดลวิทย์ เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ โดยมี นายสมใจ โตศุกลวรรณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน เพื่อพิจารณาสำนวนคดีต่อไป
ภายหลังจากอัยการได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธแล้ว แต่ปรากฏข้อเท็จจริงใหม่ว่า มีผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับอัตราความเร็วในการขับรถของนายวรยุทธ แตกต่างจากอัตราความเร็วที่ใช้เป็นข้อเท็จจริงในการพิจารณาความเห็นสั่งไม่ฟ้อง กับ ประเด็นตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย จึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนหาหลักฐาน สอบพยาน และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม