เลขาฯ ศอ.บต.ระบุ ลูกจ้างสาว ร้าน”ต้มยำกุ้ง” ที่ไปคลอดบุตร ในรพ.มาเลเซีย จะได้รับบุตรคืนในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) หลัง กระทรวงต่างประเทศ รับหน้าเสื่อ ประสานงานกับ ประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (4 ส.ค.) พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เผยถึงกรณีการลงพื้นที่เยี่ยมและให้ความช่วยเหลือ น.ส.นูรฮาลีซา เจะอาแว อายุ 18 ปี ลูกจ้างร้านอาหารต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซียได้คลอดลูก ณ โรงพยาบาล Kajang รัฐเซลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว คาดว่ากระทรวงการต่างประเทศจะสามารถนำบุตรกลับประเทศไทยได้ในวันพรุ่งนี้
น.ส.นูรฮาลีซา ได้คลอดลูกก่อนกำหนด ทำให้บุตรมีน้ำหนักตัวเพียง 1.1 กก ส่งผลให้เด็กต้องเข้าตู้อบ นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา น.ส.นูรฮาลีซา เจะอาแว ได้เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อดำเนินการต่อวีซ่าที่อำเภอสะเดา จ.สงขลา และเข้าประเทศมาเลเซียไม่ได้เนื่องจากการประกาศปิดประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาด ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา ทำให้ น.ส.นูรฮาลีซา ต้องเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดปัตตานี และไม่ได้พบลูกเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว จึงขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ
ทั้งนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ในฐานะหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ที่ไม่ทอดทิ้งคนไทยด้วยกัน ในวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา และพร้อมช่วยเหลือในด้านการส่งเสริมอาชีพ ตลอดจนความเดือดร้อนในทุกด้าน และได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลบุตร ซึ่ง น.ส.นูรฮาลีซา ต้องจ่ายเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลแก่โรงพยาบาล เป็นจำนวนเงิน 2 แสนบาท
โดยเลขาธิการ ศอ.บต. ระบุว่า เป็นความช่วยเหลือจากคนไทยด้วยกัน โดยไม่คำนึงว่าเป็นคนศาสนาใด ขอเป็นคนไทยเราก็พร้อมช่วยเหลือ เช่นเดียวกับการให้ความช่วยเหลือ นายมะยากี ดอมะ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายจนแขนขวาขาดที่ประเทศมาเลเซีย เนื่องด้วยความขัดแย้งส่วนตัว แต่ภาครัฐก็พร้อมยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือเพียงเพราะเป็นคนไทย พร้อมยืนเคียงข้างและไม่ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง