แพทย์เผยพบคนป่วยงูสวัดเพิ่มขึ้น10%ชี้อากาศเปลี่ยนคนมีภูมิคุ้มกันต่ำ เฉพาะที่สถาบันโรคผิวหนัง พบผู้ป่วยปีละ 700-800 รายปีนี้ป่วยแล้ว98 ราย

1593

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า อาการของงูสวัดจะแบ่งเป็น 3 ระยะ คือระยะแรกจะมีไข้ต่ำ ปวดเมื่อย ปวดแสบปวดร้อนตามร่างกายบริเวณที่กำลังจะขึ้นผื่น เพราะเส้นประสาทเกิดการอักเสบ ระยะที่ 2 จะมีผื่นและเป็นตุ่มแดงขึ้นก่อนกลายเป็นตุ่มน้ำพองใส และระยะ 3 จะมีการเรียงตัวของผื่นตามแนวเส้นประสาทและที่พบบ่อยจะเป็นบริเวณไขสันหลังข้างใดข้างหนึ่งบริเวณใบหน้า เป็นต้นและโดยปกติของคนที่มีภูมิคุ้มกันปกติจะเกิดจากโรคตามแนวเส้นประสาทเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น

ในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก อาทิ ผู้ป่วยโรคเอดส์ โรคมะเร็ง มีโอกาสสูงที่จะเกิดโรคได้ทั้ง 2ข้างของแนวเส้นประสาท หากเกิดทั้ง 2 ข้างอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนของโรค เช่น มีอาการปอดอักเสบร่วมด้วยและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ส่วนตำแหน่งที่น่ากลัวของการป่วยโรคงูสวัด คือ บริเวณแนวเส้นประสาทที่เลี้ยงใบหน้า เพราะอาจทำให้ตาบอดได้

          ในกลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำและผู้สูงอายุภายหลังจากที่หายจากอาการของโรคแล้วบางครั้งอาจจะต้องเผชิญกับอาการปวดเหมือนไฟช็อตอีกด้วย

          อย่างไรก็ตามการเป็นงูสวัดถือเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ควรไปตรวจเช็กร่างกายเพิ่มเติมเพราะอาจมีความเสี่ยงเป็นโรคเอดส์ มะเร็ง และที่พบส่วนใหญ่คือร่างกายอาจเกิดความเครียดจัด ระยะเวลาในการป่วยจะอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน แต่หากคนภูมิคุ้มกันต่ำหรือผู้สูงอายุอาจมีอาการปวดตามแนวเส้นประสาทต่ออีกระยะ

          “โรคงูสวัดไม่ได้อันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิต แต่ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อน ขณะนี้มียารักษาทั้งแบบยาฉีดและยากิน ส่วนใหญ่แพทย์จะให้ยาแบบกินเท่านั้น และยาอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติที่ทุกสิทธิการรักษาสามารถเข้าถึงยาได้ การรับประทานยานั้นยิ่งได้รับยาเร็วยิ่งเป็นผลดีต่อผู้ป่วย

วิธีป้องกัน คือทำร่างกายให้แข็งแรง หมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ในกลุ่มเด็กเล็กฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใส เพราะโรคงูสวัด 99% เกิดจากการเชื้อไวรัสตัวเดียวกับอีสุกอีใส เมื่อร่างกายอ่อนแอเชื้อไวรัสดังกล่าวก็จะแสดงอาการออกมาทำให้เป็นโรคงูสวัด” พญ.มิ่งขวัญกล่าว

ที่มา : เว็บไซต์คมชัดลึก

crภาพ:https://goo.gl/images/3cQlLu