พบพิรุธอื้อ! นิพิฏฐ์ ฟันธง”ลูกกระทิงแดง” ผิดเต็มประตู จี้ต้องทำ”คดี”ให้กระจ่าง

“นิพิฏฐ์” ฟันธง ทายาท “กระทิงเดียว” ผิดเต็มประตู พบพิรุธทางคดี หลายขั้นตอน โดยเฉพาะ คำให้การของ ตร.ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องความเร็ว วัตถุพยาน และ ห้วงเวลาเกิดเหตุ ชี้ “รออะไรอยู่ถึง7ปี จึงเข้าให้การ” จี้ ต้องทำให้ชัด ไม่งั้น กระบวนการยุติธรรมของชาติพัง

วันที่ 27 ก.ค.63 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง และ รองหน.พรรคประชาธิปัตย์( ปชป.) กล่าวถึงกรณี นายวรยุทธ์ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง หลุดคดีขับรถชนดต.เสียชีวิต ว่า เรื่องอัยการไม่ฟ้องลูกกระทิงแดง นี่ อัยการสรุปว่า เป็นความประมาทของตำรวจ (ผู้ตาย)เพียงฝ่ายเดียว เพราะขับรถจักรยานยนต์ ตัดหน้ารถยนต์นายบอส อย่างกระทันหัน ตอนแรกอัยการสั่งฟ้อง แต่หลังจากพิจารณามานานถึง 8 ปี ก็กลับคำสั่งเดิมเป็น “สั่งไม่ฟ้อง” ด้วยเหตุผล หลักๆ คือ

เหตุที่สั่งฟ้องในตอนแรกเพราะ พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น ผู้ตรวจสอบความเร็วให้การว่า นายบอส ขับรถด้วยความเร็ว 177 กม./ชม. แต่หลังจากนั้น เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น ได้ให้การใหม่ เมื่อ 2 มี.ค.2557 ว่าได้คำนวณใหม่แล้ว ความเร็วรถลดลงเหลือเพียง 79 กม./ชม. และได้มี พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียน,พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิไชย และ รศ.ดร.ลายประสิทธิ เกิดนิยม ให้การเมื่อ 23 มค.60 หลังเกิดเหตุถึง 5 ปี ว่า รถยนต์ของ นายวรวุทธ อยู่วิทยา ไม่น่าจะขับ 177กม./ชม. แต่น่าจะขับเพียง 76 กม./ชม. จะเห็นว่า เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรม ความเร็วของรถลดลงประมาณ 100 กม./ชม. เหลือเพียง 76 กม./ชม. และอัยการก็เชื่อตามนั้น

นายนิพิฎฐ์ ระบุว่า ตนมีข้อโต้แย้งทางวิชาการ ต่อคำสั่งของอัยการ ดังต่อไปนี้ ข้อโต้แย้ง ประการที่1 ไม่เชื่อความเห็นของพยานที่ให้การกลับคำในภายหลัง และไม่เชื่อคำให้การของพยานที่ให้การหลังเกิดเหตุหลายปี ที่ให้การแตกต่างกันในเรื่องความเร็วรถถึง 100 กม./ชม. ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกลาง มาพิสูจน์ว่า ความเร็วรถ ว่าน่าจะ177 กม./ชม หรือ 76 กม./ชม. หากเป็น 177กม/ชม.

พยานที่ให้การในตอนหลังว่า 76 กม./ชม. ก็น่าจะมีปัญหาแล้วล่ะครับ ตอนนี้น่าจะครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ไอ ก็จาม อยู่ล่ะครับ ประการสำคัญคือ ในกทม.เขาจำกัดความเร็วรถยนต์ไม่เกิน 80 กม/ชม. ที่พยานให้การตอนหลังว่า 76 กม./ชม. จะเป็นการให้การเพื่อให้สอดคล้องกับการจำกัดความเร็วไม่เกิน 80กม./ชม.หรือเปล่า

ข้อโต้แย้งประเด็นที่ 2. ผมเห็นว่า สภาพรถยนต์หลังเกิดเหตุ ยับเยิน กระโปรงหน้ายุบ กระจกหน้าแตก น้ำมันเครื่องไหลเป็นทาง รถยนต์คันนี้ราคาจำหน่ายในประเทศไทย คันละ 32 ล้านบาท ถ้ารถราคา 32 ล้านชนด้วยความเร็ว 80 กม/ชม. สภาพรถยับเยินขนาดนี้ เสียชื่อผู้ผลิตหมดครับ

ข้อโต้แย้งประการที่ 3. จากจุดชนจุดแรก ถึงจุดที่รถจักรยานยนต์ผู้ตายไปตกอยู่ห่างกัน 163.6 เมตร หากความเร็วรถยนต์ 76 กม./ชม. น่าจะหยุดรถได้เร็วกว่านั้น ไม่น่าจะลากยาวไปถึง 163.6 เมตร

ข้อโต้แย้งประการที่ 4. ผมไม่ให้น้ำหนักพยานบุคคลอีก 2 คน ที่มาให้การเมื่อ 4 ธค.2562 หลังเกิดเหตุถึง 7 ปี ว่าพยานขับรถตามหลังรถลูกกระทิงแดง และเห็นว่าลูกกระทิงแดงขับไม่เกิน 80 กม/ชม. น่าสงสัยว่า พยาน 2 ปากนี้ รออะไรอยู่ถึง 7 ปี จีงเข้าให้การ และเป็นการให้การก่อนที่อัยการจะสั่งไม่ฟ้องไม่กี่เดือน เป็นพิรุธอย่างยิ่งครับ

ดังนั้นกล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ ต้องทำให้ชัดปราศจากข้อสงสัย ไม่งั้นกระบวนการยุติธรรมของประเทศพังครับ แล้วประเทศจะพังไปด้วยครับ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ค่อยๆอ่าน พักกินกาแฟกันก่อน😊)