ตลก.ศาลรธน. ออกโรง จี้ นายกฯ รื้อคดี ทายาท กระทิงแดง

ตุลาการ ศาลรธน. ระบุ คดี “บอส อยู่วิทยา” ทำระบบยุติธรรม หมดความหมาย แนะ นายกฯ ต้อออกมาประกาศให้ชัด รัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือคนรวย จี้ ตั้งกก.ตรวจสอบเรื่องนี้ทั้งหมด อย่าอ้าง ไม่ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม

กรณี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทผู้ก่อตั้งเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมดในคดีขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 หลังจากพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

วันที่ 25 ก.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นในกรุ๊ป ไลน์กฎหมาย เกี่ยวกับการสั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ในคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตทุกข้อหาว่า เรื่องขับรถชนคนตาย เป็นเรื่อง common ที่คนรู้เห็นและเข้าใจกันทุกชนชั้น ทั้งประเทศ แต่การที่จำเลยไม่ถูกสั่งฟ้อง เพราะสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างกรณีนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิด และไม่มีใครเข้าใจได้เลย แทนที่จะช่วยโดยทำสำนวนว่า ประมาทร่วม และช่วยเหลือครอบครัวผู้ตายอย่างดี แล้วปล่อยให้ศาล แล้วถูกศาลตัดสินจำคุกแต่ให้รอลงอาญา

ดังนั้น อัยการที่ไม่สั่งฟ้อง และตำรวจที่ไม่แย้ง ซึ่งทั้งคู่เป็นองค์กรหลักในกระบวนการยุติธรรม ที่เปราะบางอยู่แล้ว ก็ยิ่งกลายเป็นความล้มเหลว และหมดหวังที่จะพึ่งได้อีกจากคนทั้งประเทศ ที่รับรู้เข้าใจเรื่องง่ายๆ นี้หมดทุกคน และจะทำให้ระบบความยุติธรรมหมดความหมาย ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
ถ้ามองให้ดีจะเห็นว่า เศรษฐกิจก็ล้มเหลว โควิดก็คุกคาม สังคมก็แตกแยก คนเบื่อและเกลียดรัฐบาลมากขึ้น การเมืองก็แย่งผลประโยชน์ และคนรู้สึกว่ามีแต่นักการเมืองน้ำเน่าที่แก่งแย่ง หน้าไม่อาย และกอบโกยคอร์รัปชันไม่ต่างจากยุคก่อนๆ

อย่างเดียวที่รัฐบาลใช้เป็นหลักพิงประคองตัวอยู่ได้ คือ Law and Order บัดนี้คนส่วนใหญ่เห็นว่า กฎหมายมันไม่ศักดิ์สิทธิ์และไม่น่าเคารพเชื่อฟังอีกแล้ว เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องประชาชนทุกภาคส่วนรุมกันด่าตำรวจหรืออัยการ แล้วพอผ่านไปสองอาทิตย์ พอซาลงก็จบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการพังทลายลงของรัฐบาล ซึ่งจะมาเร็วมาก โดยเฉพาะเมื่อมีคนโยง และ ชาวบ้านเชื่อว่า นายกฯรับเงิน 300 ล้าน เพื่อช่วยโควิดจากเขา เมื่อหลายเดือนก่อน เป็นเรื่องเดียวกันกับเรื่องนี้ นี่ ไม่ใช่น้ำผึ้งหยดเดียว แต่เป็นน้ำผึ้งทั้งไห ที่เทราดลงไป

ขณะที่ม็อบของคนรุ่นใหม่กำลังจุดติด ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านการผูกขาดอำนาจ ต่อต้านพวกทุจริต ต่อต้านรัฐบาลที่ทำให้คนตกงาน เศรษฐกิจล้มเหลว หรือ ต่อต้านเผด็จการ ทั้งหมดคือภาพรวมของการต่อต้านสังคมที่อยุติธรรมนั่นเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยรัฐบาลไม่รับรู้ ไม่ตั้งใจ แต่ timing ที่มาคือการสาดน้ำมันเข้ากองไฟที่เพิ่งจุดติดแค่กองเล็กๆ จากการชุมนุมของนักศึกษาเท่านั้น และมันจะทำให้เกิดกองไฟลุกท่วมประเทศในเวลารวดเร็วมาก

โอกาสเดียวที่ นายกฯ ตู่ จะหลุดรอด และพารัฐบาล ออกจากพายุอารมณ์ และความโกรธแค้นของผู้คนทั้งประเทศได้ คือ การออกมาพูดโดยเร็วที่สุดว่า รัฐบาลไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้เรื่องนี้ แต่เห็นว่าเรื่องนี้ ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม ไม่ใช่จะมาพูดว่ารัฐบาลจะไม่ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม เพราะ perception ของคนทั้งประเทศ เห็นรัฐบาลสั่งได้หมดมาตั้งแต่ คสช.แล้ว และนายกฯ จะตั้งกรรมการ ขึ้นตรวจสอบกระบวนการเรื่องนี้ทั้งหมด จากคนที่สังคมไว้วางใจ โดยให้ทำให้เร็วที่สุด สักสองสัปดาห์ และ ประกาศว่า ถ้าพบว่ามีอะไรผิดพลาด ทุจริต หรือ ประพฤติไม่ชอบจ ะลงโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างรุนแรงที่สุด เพื่อเรียกศรัทธาและความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมกลับมา และทำให้มี Law and Order ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ค้ำจุนรัฐบาลนี้ ในเวลานี้กลับคืนมาเป็นหลักเดียวที่รัฐบาลจะใช้ค้ำจุนตนเองต่อไปได้ครับ