คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษา การขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เดินสายรับฟังความคิดเห็นชาวกระบี่-นครศรีฯ ขับเคลื่อนการขุดคลองไทย
คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษา การขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร เดินสายจังหวัดกระบี่ และ ที่ศาลาประชาคม(โรงละคร) เมืองนครศรีธรรมราช และที่อำเภอหัวไทร จัดที่หอประชุมอำเภอหัวไทร นำโดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ที่ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการแทน รมช.คมนาคม พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ รองประธาน นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง โฆษกคณะกรรมาธิการฯ นายสฤษดิ์พงษ์ เกี่ยวข้อง โฆษกคณะกรรมาธิการฯ และกรรมาธิการฯเดินทางไปร่วมแบบครบคณะทุกพรรคการเมือง
โดยที่โรงละคร มีชาวบ้านเข้ารับฟังและแสดงความคิดเห็นไม่มากนัก แต่ที่หอประชุมอำเภอหัวไทย ชาวบ้านเดินทางมาแน่นห้องประชุม
การศึกษาการขุดคลองไทย เพื่อนำไปสู่การดำเนินโครงการการขุดเส้นทางคมนาคมทางน้ำ เชื่อมระหว่างทะเลฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย ให้เรือใหญ่สามารถผ่านได้ เป็นการร่นระบุเวลาการเดินทางขนส่งสินค้า ที่ต้องอ้อมแหลมมะละกา และเกาะอินโดนีเชีย จะขุดคลองกว้าง 1 กิโลเมตร ไปกลับ ลึก 24 เมตร ให้เรือขนาดใหญ่สามารถแล่นได้ และขุดคลองคูาขนาน เพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งจากจากการศึกษาฯ ของวุฒิสภา เมื่อปี 2548 เส้นทางที่เหมาะสม คือ เส้นทาง 9A ผ่าน 5 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ ตรัง นครศรีฯ พัทลุง และสงขลา โดยนครศรีธรรมราช จะเป็นพื้นที่ขุดคลองไทยมากที่สุดประมาณ 60%
‘เป็นครั้งแรกที่ กรรมาธิการฯ จากทุกพรรค เห็นด้วยให้มีการขุดคลองไทย ชาวบ้านก็เห็นด้วย เหลือแต่รัฐบาลที่ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯชุดนี้ จะทำการศึกษาในเชิงลึก และจะเสนอออกเป็นกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลจะต้องทำกฎหมาย’นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน กล่าว
ในขณะที่ พล.ต.ทรงกลด กล่าวว่า เมื่อก่อนนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เห็นด้วย แต่จากที่คณะกรรมาธิการฯ 4-5 คน ได้เข้าพบ นายกฯ เห็นด้วย แต่ให้ศึกษาเรื่องความมั่นคง
‘เรื่องนี้มีคิดกันมา 350 ปี ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ และในสมัยอาณานิคมอังกฤศทำสัญญาห้ามไทยสร้าง ไม่มีใครสามารถแยกดินแดนเอาไปได้ วันนี้ เราต้องสร้างเพราะให้ประโยชน์กับประเทศ ทราบว่า มีต่างชาติเข้าพบ ส.ส.-ส.ว.ล็อบบี้ ไม่ให้มีการก่อสร้าง เสนอผลประโยชน์คนละ 500 ล้านบาท’ พล.ต.ทรงกลด กล่าว
เขา กล่าวว่า ขณะนี้มีเรือขนส่งสินึ้าผ่านช่องแคบมะละกา ปีละ 4 ล้านล้านบาท หากมีการขุดคลองไทย จะทำให้รายได้นี้มาอยู่กับประเทศไทย รายได้ของคนไทยก็จะเพิ่มขึ้น
เวทีรับฟังความคิดเห็นที่นครศรีฯ เป็นไปด้วยความราบรื่น ส่วนใหญ่สอบถามเรื่องความเป็นไปได้ของโครงการ และอาจมีการท้วงติงเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เวทีที่หัวไทรปั่นป่วนเล็กน้อย เมื่อมีชาวบ้านลุกขึ้น แสดงความเห็นระบุว่า เป็นเวทีที่มีการจัดตั้ง และชี้นำ ทำให้คณะกรรมาธิการฯ โดยเฉพาะนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.ในพื้นที่ต้องลุกขึ้นชี้แจง และระบุว่า ไม่มีการชี้นำ ไม่มีการจัดตั้ง แต่เป็นการชักชวนชาวบ้านมาร่วมรังฟังและแสดงความเห็น แต่สุดท้ายสถาการณ์ก็สงบ
หลังคณะกรรมาธิการฯ จะจัดทำรายงานเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส่งให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป