ศบค.เจอผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 8 ราย จากอียิปต์ ซูดาน และ สหรัฐฯ ทั่วโลกป่วย 15.3 ล้านราย ป่วยใหม่สูงที่สุด 2.79 แสนราย เผยทหารไทยกลับจากฮาวาย 151 นาย เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 10 ราย ส่งตรวจหาเชื้อ รพ.พระมงกุฎเกล้า อยู่ระหว่างรอผล อีก 1
วันที่ 23 ก.ค.63 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย ไม่มีคนหายและเสียชีวิตเพิ่มเติม ผู้ป่วยสะสม 3,269 ราย มาจากสถานเฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 332 ราย รักษาหายรวม 3,105 ราย ยังรักษาใน รพ.106 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่มาจาก 1. อียิปต์ 4 ราย คือ เพศชายอายุ 21 ปี จำนวน 2 ราย เดินทางถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. เข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 19 ก.ค.ไม่มีอาการ ซึ่งก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยในเที่ยวบินเดียวกัน 15 ราย อีก 2 รายเป็นชายอายุ 20 ปี และ 24 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 17 ก.ค. เข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกวันที่ 21 ก.ค.ไม่มีอาการ ก่อนหน้านี้มีผู้ป่วยในเที่ยวบินเดียวกัน 4 ราย
2. ซูดาน 2 ราย เป็นเพศชาย อายุ 20 ปี และเพศหญิงอายุ 20 ปี ทั้งสองรายมีอาชีพนักศึกษา ถึงไทยวันที่ 10 ก.ค. พบมีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ตรวจหาเชื้อที่ด่านควบคุมโรค สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่พบเชื้อ จึงเข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อครั้งที่ 3 คือ วันที่ 21 ก.ค.
3. สหรัฐอเมริกา 2 ราย เป็นเพศหญิงอายุ 22 ปี และ 23 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 18 ก.ค. เข้าพักสเตทควอรันทีนใน กทม. พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 21 ก.ค.
พญ.พรรณประภากล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสม 15.3 ล้านราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 2.79 แสนราย ถือว่ามากที่สุดที่มีการระบาดมา เสียชีวิตใหม่มากกว่า 7 พันราย เสียชีวิตสะสมมากกว่า 6.3 แสนราย 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยใหม่ 7.2 หมื่นราย สะสมรวม 4.1 ล้านราย บราซิลป่วยเพิ่ม 6.5 หมื่นราย ป่วยสะสม 2.2 ล้านราย และอินเดียป่วยใหม่ 4.5 หมื่นราย สะสม 1.23 ล้านราย โดยการเสียชีวิตทั้ง 3 ประเทศสูงกว่า 1 พันรายทั้งสิ้น
ส่วนกรณีทหารไทยกลับจากฮาวาย สหรัฐอเมริกา เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 18.50 น. ตรวจคัดกรองโรค 151 คน โดย 140 คนไม่เข้าเกณฑ์ จึงเดินทางเข้าพักสเตทควอรันทีน จ.ชลบุรี ส่วน 10 รายมีอาการเข้าได้กับเกณฑสอบสวนโรค คือ มีไข้ ไอ เสมหะ เจ็บคอ ส่งตัว รพ.พระมงกุฎเกล้าเพื่อตรวจเชื้อ อยุ่ระหว่างรอผลตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ และ 1 รายมีโรคประจำตัว แต่ไม่ใช่โควิด-19 เข้ารักษาที่ รพ.เช่นกัน สถานการณ์ไม่ได้น่ากังวลสำหรับประชาชน เพราะส่งเข้ารักษา และเข้าสถานเฝ้าระวังเรียบร้อย
“ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร การผ่อนคลายมาตรการทำให้เกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลง สิ่งที่เรายังคงทำเสมอคือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ เพื่อเฝ้าระวังตนเองไม่ให้รับเชื้อโควิด-19 สถานการณ์อย่างไรไม่ใช่เรื่องต้องกังวล สิ่งที่ทำได้คือ การดูแลตนเองโดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงไปในที่แออัด ปลอดเชื้อโควิด-19 ได้” พญ.พรรณประภากล่าว