โฆษก ศบค. เผย ‘นิวยอร์กไทม์’ ชื่นชมเมืองไทยป้องกันโควิด-19 ได้ดี เพราะประชาชนให้ความร่วมมือ ขณะสถานการณ์ ล่าสุด ประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่อีก1 มาจากสิงคโปร์ ส่วนทั่วโลก มียอดผู้ป่วยกว่า 14 ล้านราย
20 ก.ค.63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลง ว่า ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 รายจากสิงคโปร์ ซึ่งเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,250 ราย หายป่วยสะสม 3,096 ราย ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 96 ราย ซึ่งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 58 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่จากสิงคโปร์ เป็นชายไทยอายุ 52 ปี อาชีพช่างไฟฟ้า เดินทางมาไทยถึงวันที่ 6 ก.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ติดเชื้อที่รายงานไปก่อนหน้านี้ 1ราย เข้าพักในสถานที่กักกันของรัฐ จ.กรุงเทพฯ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ได้ตรวจเชื้อรอบแรกแล้วในวันที่4 ของการเข้าพักแต่ไม่พบเชื้อ ผ่านมา 11 วัน คือวันที่ 17 ก.ค.เป็นการตรวจเชื้อรอบที่สอง ผลตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกยอดผู้ติดเชื้อรวม 14,641,819 ราย รักษาหายแล้ว 8,735,158 ราย เสียชีวิต 608,902 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับรายงานการตรวจตัวอย่างโควิด-19 กรณีการสอบสวนโรคในพื้นที่จ.ระยองและกทม.เคสเด็กหญิงชาวซูดานนั้น พื้นที่จ.ระยองมีการตรวจโรคไปแล้วทั้งสิ้น 6,501 รายไม่พบเชื้อ 6,287 ราย อยู่ระหว่างรอผล 214 ราย และจะครบระยะเพาะเชื้อในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ขอให้สบายใจได้ ขณะที่พื้นที่กทม.ตรวจไปแล้ว 364 รายไม่พบเชื้อ ถ้าให้พูดภาษาชาวบ้านพื้นที่กทม.เราปิดเคสได้
ทั้งนี้ หากในอนาคตมีการติดเชื้อภายในประเทศก็ไม่เกินความคาดหมาย เราจะได้ระมัดระวัง เพราะสถานการณ์มีผู้ติดเชื้อจำวนมาก ก่อนหน้านี้เราเคยมีผู้ติดเชื้อ หลักหน่วย หลักสิบไปถึงหลักร้อย ที่สำคัญเราต้องรับมือให้ได้เพราะจะทำให้เราสบายใจ และเมื่อวันนี้ทุกคนต่างกลัวสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทรุดไปทั้งโลก ดังนั้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวิถีใหม่จะพึ่งกระแสการท่องเที่ยวจากต่างประเทศอย่างเดียวไม่ได้ เพราะชัดเจนแล้วว่าเราเองก็ไม่อยากให้เขาเข้า เขาเองก็ไม่อยากจะเดินทาง ฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต้องเป็นวิถีใหม่อื่นๆ ที่เราจะคิดและทำกัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการเดินทางเข้าประเทศในวันเดียวกันนี้มี 5 เที่ยวบิน จำนวน 630 คน ส่วนตอนนี้มีคนไทยเรียกร้องต้องการจะเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก จะขยายโควตาเพิ่มหรือไม่ ที่ผ่านมาเราทำอย่างเต็มที่จากเดิมรับได้ 200 คน วันนี้เพิ่มมาเป็น 600 คน ซึ่งต้องใช้คนดูแลจำนวนมาก ยืนยันทำเต็มที่ ตัวเลข 600 คนถือว่าเต็มศักยภาพในตอนนี้ และล่าสุดที่นิตยสารนิวยอร์กไทมส์ ตั้งคำถามกับทั้งโลกว่า เป็นที่วัฒนธรรมการไม่สวมกอด ภูมิต้านทานของคนไทย หรือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ ที่เป็นสาเหตุทำให้ผลการดูแลโควิด-19 ของเราดี จนเป็นที่ชื่นชมของคนทั้งโลก แต่ตนในฐานะโฆษกศบค.ขอบอกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ เป็นเพราะผลการปฏิบัติตัวของไทยที่ให้ความร่วมมือกัน
เมื่อถามถึงการผ่อนคลายระยะที่ 6 ที่จะให้ชาวต่างชาติเข้ามาเพิ่มเติม รวมถึงกองถ่ายภาพยนตร์ จะเป็นรูปแบบใดบ้าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ จะอนุญาต 4 กลุ่มคือ 1.ต่างชาติจัดการแสดงสินค้าในราชอาณาจักร โดยเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มาก เข้ามาในวัน เวลาที่กำหนด 2.อนุญาตต่างชาติถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีตารางกำหนดแผน วัน และเวลา สามารถควบคุมได้ 3.แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติที่จะเข้ามาเป็นแรงงาน เนื่องจากเราขาดแรงงานในภาคอุตสาหกรรมอาหารและการก่อสร้าง ซึ่งจะต้องใช้คนจำนวนมาก
จึงต้องเปิดให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน และ 4.กลุ่มที่เข้ามารักษาพยาบาล เช่น เสริมความงามและปรึกษาเรื่องการมีบุตร เป็นต้น ทั้งหมดที่เข้ามาจะต้องอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ 14 วันหรือกักตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 14 วัน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯเตรียมเสนอที่ประชุมใหญ่ศบค.พิจารณาในการประชุมวันที่ 22 ก.ค.นี้