“แรมโบ้” โทษ พิษโควิดฯ ทำศก.ชาติพัง วอน นศ.หยุดต้าน รบ. ปม รธน.แก้ได้

“สุภรณ์ อัตถาวงศ์” วอน นศ.รวมพลังขับเคลื่อนประเทศ ทบทวน บทบาท ชี้ ศก.ไม่ดีเป็นกันทั้งโลก จากพิษโควิด ขณะที่การแก้ รธน. กมธ. กำลังดำเนินการ  อยากให้แก้ประเด็นไหนก็นำเสนอ ได้

วันนี้ (19 ก.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ “แรมโบ้อีสาน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของนักศึกษา เยาวชนปลดแอก และมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อถึงรัฐบาลว่า ขอตอบน้องๆ ดังนี้ 1. เรียกร้องให้ยุบสภาโดยให้เหตุผลว่าแก้ปัญหาโควิดไม่ได้ ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ขอตอบว่าน้องๆ ต้องแยกแยะนะว่า สภาฯ กับฝ่ายบริหารคนละส่วนกัน ฝ่ายบริหารคือรัฐบาลที่กำลังแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ประเทศเราแก้ปัญหาโควิดได้ดีมากจนทั่วโลกชื่นชมและยอมรับ เมื่อไวรัสนี้มาทำให้เดือดร้อนไม่สามารถติดต่อทำมาค้าขาย เศรษฐกิจจึงหยุดชะงักทั่วโลก รัฐบาลจึงได้มีมาตรการต่างๆ ในการดูแลประชาชน ที่เร่งด่วนคือรีบเยียวยาในหลายโครงการดูแลประชาชนทุกสาขาอาชีพเต็มที่ที่รัฐบาลจะสามารถเยียวยาช่วยเหลือได้ จากนั้นก็ช่วยฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิดผ่านพ้นไป นี่คือการทำงานอย่างมีระบบและแบบแผนช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ที่น้องนักศึกษาอยากให้ยุบสภานั้น ขณะนี้สภาก็ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ตรวจสอบฝ่ายบริหาร ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ในเมื่อสภาก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างปกติ ยังไม่เกิดความเสียหายหรือผิดพลาดหรือเกิดความรุนแรงใดๆ ในสภา เราไม่ควรผลักภาระไปให้ประชาชนต้องมาเลือกตั้งใหม่ และพี่ก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลใหม่จะถูกใจน้องๆ นศ.หรือไม่

ข้อ 2 หยุดคุกคามประชาชนนั้น ต้องถามกลับน้องๆ นักศึกษาว่ารัฐบาลคุกคามใคร รัฐบาลไม่เคยคิดคุกคามแม้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ยังเห็นหลายคนออกมาเคลื่อนไหวโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และที่ผ่านมามีแต่กลุ่มที่เห็นต่างบางคนบางกลุ่มที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลเท่านั้น เช่น กรณีที่มีชายสองคนไปยกป้ายด่านายกฯ ที่ระยองและเป็นคนในกลุ่มเครือข่ายต่อต้านรัฐบาลตลอดมา นั่นคือการคุกคามนายกฯ มิใช่หรือ ทั้งที่นายกฯ ลงไปด้วยจิตใจที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวระยอง พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ยังมีอยู่ สองคนนั้นก็ยังมาถือป้ายด่าว่านายกฯ มิได้เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด กลับต้องการท้าทายยั่วยุเพื่อให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและการที่น้องๆ นักศึกษาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ไปคุกคามทั้งที่ยังอยู่ในห้วง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขวิกฤตไวรัสที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อพี่น้องประชาชนโดยรวม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็แค่ไปดูแลความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น

ข้อ 3 การเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากบอกน้องๆ ว่า สภากำลังศึกษาแนวทางแก้ไขอยู่ โดยมีคณะกรรมาธิการฯ ที่สภาตั้งขึ้นมาจากทุกพรรคการเมืองทั้งซีกฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลรวมถึงผู้ทรงวุฒิที่สภาเสนอชื่อมา ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนอยู่แล้ว อยากให้แก้ประเด็นอะไรบ้าง ก็ติดต่อคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธาน กมธ. หรือคณะ กมธ.ได้ ในส่วนที่น้องๆ นักศึกษาต้องการอยากนำเสนอในการแก้ไข กธม.จะได้นำไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้ไปก้าวล่วงการทำงานของ กมธ.ของสภาแต่อย่างไร

นายสุภรณ์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของเยาวชนปลดแอก พี่ต้องขอร้องให้มีสติให้มั่น อย่าได้เอาข้อมูลข่าวสารผิดๆ และบิดเบือนมาโจมตีรัฐบาลและนายกฯ อย่าไปรับข้อมูลมาจากบางพรรคบางกลุ่มการเมือง แล้วมาเคลื่อนไหวกดดันโจมตีรัฐบาลเพราะคนกลุ่มนั้นบางคนขาดความชอบธรรมในทางการเมืองแล้ว จึงอยากให้น้องๆ มีความคิดร่วมกันว่าวันนี้บ้านเมืองต้องการรวมพลังเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้ประเทศชาติไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นนิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ต้องหันมาช่วยกันเสียสละเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าให้ได้ การรวมพลังจับมือให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าคือการช่วยกันทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดิน เพราะประเทศนี้ผืนแผ่นดินนี้เป็นของพวกเราคนไทยที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกันทุกคน ขอน้องๆ อย่าตกเป็นเครื่องมือให้ใครในการที่จะทำให้ประเทศไทยแตกแยกถอยหลังลงคลองเหมือนประสบการณ์ในอดีตที่พี่ๆ เคยทำผิดพลาดมา มันเป็นบทเรียนอันแสนเจ็บปวดที่ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไม่อยากให้ประเทศชาติเสียหายไปมากกว่านี้

“วันนี้ความรักความสามัคคีปรองดองของคนไทยเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยอยู่รอด เหมือนที่เราช่วยกันต่อสู้กับวิกฤตโควิดร้าย จนทำให้ประไทยชนะ นี่คือผลพวงของความสามัคคีของคนไทยทุกคน ขอให้น้องๆ มีสติ เอาชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ประเทศชาติจะได้อยู่รอดปลอดภัย ซึ่งตนยืนยันว่า นายกฯและรัฐบาลมีความตั้งใจเต็มที่ ที่จะเดินหน้าให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและประเทศไทยเรามีเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้น้องๆ นักศึกษาและพวกเราคนไทยทุกคนต้องร่วมมือกันด้วยความจริงใจ ประเทศเราจึงชนะและก้าวข้ามผ่านวิกฤตไปด้วยกันครับ” นายสุภรณ์กล่าว