“คำนูณ” ชงกฎหมายนิรโทษกรรม ยุติความขัดแย้งสังคมไทย จี้ “บิ๊กตู่” ฉวยโอกาส สร้างบารมี เพื่อช่วยเหลือ ผู้คนจำนวนมากที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่อยู่”ในคดี” หรือ “หนีคดี” ยก โมเดล คำสั่ง66/2523 ของ “ป๋าเปรม”มาใช้เป็นต้นแบบ
วานนี้ (14 ก.ค.) ที่ อาคารรัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายระหว่างเพื่อพิจารณารายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2562 ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องเร่งตรากฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน จากความผิดที่เกิดขึ้น หรือ เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ เกือบครบ 15 ปีเต็มแล้ว ความขัดแย้งทำให้สังคมไทยแบ่งแยกออกเป็นอย่างน้อย 2 ขั้ว สังคมไทยร้าวลึก แม้แต่ในระดับครอบครัว มีทั้งผู้คนในขณะนี้ ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และผู้ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่ในคดีนับร้อยคน ซึ่งบางคนตายไปแล้ว และบางคนกำลังเฝ้าดูลมหายใจสุดท้าย ไม่มีวันสิ้นสุด และยังจะเชื่อมโยงไปถึงประชาชนนับสิบล้านคน ที่เมื่อมีคดีตัดสินออกมาคราใดวิวาทะทางออนไลน์ก็จะเกิดขึ้น ความขัดแย้งแตกแยกในสังคมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
วิสัยทัศน์ของเราในหน้าต้นๆของรายงานนี้ระบุว่า เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เวลานายกฯแถลงข่าวติดป้ายไว้หน้าโพเดียมว่า’รวมไทยสร้างชาติ ‘ ซึ่งเราจะรวมไทยสร้างชาติได้อย่างไร เมื่อคนกลุ่มหนึ่งถูกทิ้งให้ขึ้นศาลทุกสัปดาห์ ทุกเดือน จะไปต่างประเทศทีต้องรายงานต่อศาล หลายคนถูกยึดทรัพย์ หลายคนต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติที่บรรพบุรุษมอบให้เพราะพ่ายแพ้ในศาลแพ่ง การนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ ในสมัยสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐไทยกับพรรคคอมมิวนิสแห่งประเทศไทย มีการตั้งกองทัพจับอาวุธเข้าห้ำหั่นกันสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่ายที่ละมากๆยังจบได้ด้วยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกฯสมัยนั้น ด้วยการนิรโทษกรรม การให้อภัย
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม แน่นอนว่าทุกคนทำผิดกฎหมาย แต่การทำผิดกฎหมายของคนที่มาชุมนุมทางการเมือง แล้วกระทำความผิดทางอาญาที่มีเหตุเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองนั้นเขาไม่ได้มีจิตเป็นอาชญากรโดยแท้ เขาต้องการมีสังคมที่ดีกว่า มีความรักชาติต้องการการเมืองใหม่ ต้องการปฏิรูปประเทศ คนเหล่านี้ไม่ควรจะต้องสูญเสียอนาคต
นายคำนูณกล่าวว่า ขอเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าอย่าลังเลเลยเพราะถึงเวลาแล้ว แม้ว่ากฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ จะต้องมีลักษณะแตกต่างจากกฎหมายนิรโทษกรรมที่เคยมีมาหลายครั้ง เพราะเนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมายาวนาน อาจจะมีคำถามว่า คนที่หนีคดีจะทำอย่างไร ตนเชื่อว่าในหลักการเราสามารถอภิปรายในรายละเอียดได้เช่น เรานิรโทษกรรมกับผู้กระทำความผิดที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองโดยตรง หรือ นิรโทษกรรมในเบื้องต้น เฉพาะผู้ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หรือ ผู้ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หรือ หนีคดีไปนั้น หากกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเมื่อผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาที่จะต้องออกแบบตั้งขึ้นมาก็สามารถจะได้สิทธินี้
“ผมเห็นว่า 15 ปีผ่านไปและระบอบของนายกฯเดินหน้ามาสู่วันนี้เป็นปีที่ 6 ท่านต้องการรวมไทยสร้างชาติ และเรากำลังอยู่ในช่วงการปรับปรุงยุทธศาสตร์ชาติ เมื่อท่านแสดงเจตจำนงทางการเมืองด้วยการเป็นผู้นำเสนอพรบ.นิรโทษกรรมในครั้งนี้ ก็จะเป็นการสร้างบารมีให้กับท่านนายกฯเอง ในการที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าว สร้างระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง มีธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากขึ้น แต่ถ้าท่านสามารถกระทำการโดยการรวมใจคนทุกภาคส่วนเข้ามา โดยมีพรบ.นิรโทษกรรมเป็นก้าวแรก ท่านจะสามารถก้าวต่อไปได้ จึงขอฝากความหวัง และเป็นสื่อนำจิตสำนึกของผู้รักชาติทุกคน ทุกสี ทุกฝ่ายที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอดเวลา 15 ปี ขอฝากนายกฯได้โปรดพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย” นายคำนูณกล่าว
ผู้สื่อขาวรายงานว่า พรบ.นิรโทษกรรม ตามข้อเสนอขง นายคำนูณ สิทธิสมาน เป็นการเสนอให้ล้มล้างความผิดของบุคคลที่อยู่ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองทั้งหมด ซึ่งรวมถึง นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วย