ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7ต่อ1 ให้ “สิระ เจนจาคะ” ยังทำหน้าที่ สส.ได้อีกต่อไป โดยชี้ว่า พฤติกรรม การลงพื้นที่ ตรวจสอบการก่อสร้าง คอนโดฯ จ.ภูเก็ต ไม่ได้เป็นการ ก้าวก่าย หรือ แทรกแซง การปฏิบัติงานของ จนท.ตร. สภ.กระรน เล็งฟ้องเอาคืน กลุ่ม สส.ก้าวไกล
วันที่ 1 ก.ค.63 จากกรณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล 57 คนรวบรวมรายชื่อยื่นคำร้องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา วินิจฉัยสมาชิกภาพ นายสิระ เจนจาคะ สส.พลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าใช้สถานะหรือตำแหน่ง ส.ส. ก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองในการปฏิบัติราชการหรือไม่ จากเหตุที่นายสิระ มีวิวาทะต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ไม่ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลและไม่ปฏฺิตามคำสั่งระงับการก่อสร้างคอนโดมิเนียมเมื่อเดือน ส.ค. 2562 ส่งผลให้สมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 185 (1) หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดประเด็นวินิจฉัยประเด็นเดียว คือ นายสิระ มีพฤติกรรมที่ใช้สถานะ หรือ ตำแหน่ง ส.ส. กระทำการก้าวก่าย หรือ แทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือ การดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการหรือไม่ จากเหตุการ์ที่ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลงติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 เสียง เห็นว่าการกระทำของนายสิระ “เป็นเพียงให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมีการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด” ส่วนการแสดงพฤติกรรมและถ้อยคำของนายสิระ “เป็นเพียงการไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ท.ประเทือง ในฐานะ เจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจภูธรกะรนเท่านั้น”
ส่วนการพูดจาของนายสิระต่อนายกเทศมนตรีและผู้บริหารตำบลกะรน ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเป็นเพียงการสอบถามข้อมูลและฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงยังฟังไม่ได้ว่านายสิระใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็น ส.ส. ก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองในการปฏิบัติงานหรือหน้าที่ประจำตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าที่ผ่านมาก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย นายสิระ ระบุว่า หากไม่ผิดจริง ก็จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ยื่นเรื่องให้ศาลวินิจฉัย เนื่องจากทำให้เสียชื่อเสียง