“บิ๊กตู่” แจง! ผ่อนคลาย100 % ไม่ได้ ชี้ ตปท. ยังติดเชื้ออื้อ หวั่นลามเข้าไทย

นายกฯ เห็นใจ ปชช. แต่สถานการณ์โควิด-19 ยังผ่อนคลาย 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ชี้ โอกาสกลับมาระบาดยังมีอยู่ ยกตัวเลขผู้ป่วยที่ยังมีเพิ่มขึ้นต่างประเทศเป็นตัวอย่าง ครม.ให้หยุด4วัน อาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา 

วันที่ 23 มิ.ย.63 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า อยากให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศ เราสนใจสถานการณ์ภายในประเทศคงไม่พอ ที่บอกไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์มา 28-29 วัน แต่เรายังพบผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐ ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ มันควรจะเลิกได้ทั้งหมดหรือยัง ก็ต้องดูต่างประเทศ เขาด้วยเป็นอย่างไร เพราะเชื้อโรคเหล่านี้บางครั้ง ยังไม่แสดงอาการ เพราะส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเชื้อก็จะพบในระยะฝักตัวเกือบจะวันที่ 14 ฉะนั้นวันนี้ ก็ต้องมีการตรวจสอบกันต่อไปด้วยความเข้มงวด ไม่อย่างนั้นจะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งคงลำบาก เพราะหลายประเทศมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ทั้งโลกมีติดเชื้อจะ 9 ล้านคนแล้ว หลายประเทศหายไปแล้วแต่กลับมาระบาดใหม่ เพราะเกิดจากการเปิดประเทศ เกิดจากการเปิดกิจกรรมต่างๆที่มีความเสี่ยงสูง

นายกฯกล่าวว่า ฉะนั้นถ้าเราอยากจะทำงานให้มีอาชีพ มีรายได้ ต้องป้องกันตัวเอง สถานประกอบการต่างๆ ที่ขอมาตนก็เห็นใจ แต่ท่านก็ต้องมีมาตรการของท่านเอง นอกจากมาตรการของรัฐด้วย มันอาจจะไม่เหมือนเดิม นี้คือ New Normal การแสดงดนตรี อาจจะต้องมีที่กั้น ยังปล่อย 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ เพราะโอกาสกลับมาระบาดใหม่ยังมีอยู่ ในส่วนเรื่องของการท่องเที่ยว ก็มีการพิจารณากันอยู่ โดยจะพิจารณาการท่องเที่ยวในประเทศก่อน แต่จะให้ต่างประเทศเข้ามา ต้องพิจารณาความเหมาะสมในห้วงเวลาก่อน และเราก็ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมด้วย

ส่วนการทำงานที่บ้านวันนี้น่าจะลดลงเพราะสถานการณ์ดีขึ้น หลายคนก็ต้องกลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง รวมไปถึงภาคธุรกิจ เอกชน สิ่งที่ตนเน้นย้ำคือการเหลื่อมเวลา การทำงานทั้งภาครัฐ เอกชน สังคม ถ้าทำได้ก็ช่วยแก้ปัญหาจราจรได้ ซึ่งสัมพันธ์กับเรื่องเหลื่อมเวลาเรียนของเด็ก นอกจากผู้ปกครองที่มีลูกหลานต้องไปส่งที่โรงเรียน หากเหลื่อมเวลาการทำงาน คนในส่วนนี้ก็จะสบายใจขึ้น ซึ่งตนได้ให้แนวทางให้โรงเรียนเปิดเหลื่อมเวลาระหว่างชั้นเรียน มีการเรียนการสอนที่น้อยลง นี้ก็คือ New Normal

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแนวคิดการพิจารณาวันหยุดชดเชยสงกรานต์ ในช่วงเดือนกรกฎาคม ติดต่อกัน 8 วัน ว่า เป็นข่าวที่สร้างความสับสนให้ประชาชนเข้าใจผิด ไม่มีรัฐบาลไหนทำให้หยุดติดกันถึง 8 วัน บ้าหรือเปล่า เรื่องวันหยุดสำคัญมาก ต้องพิจารณารอบคอบ เพราะปกติวันหยุดสงกรานต์มีเพียง 3 วัน โดยได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาว่าจะให้แทรกหยุดได้ช่วงไหน ซึ่งอาจต้องแบ่งเป็น 3 ช่วง เช่นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจจะเติมให้หยุดวันจันทร์เพิ่มอีก 1 วัน ดังนั้นการหยุดราชการนานหลายวันไม่ใช่สิ่งที่ดี ประชาชนบางคนอาจชอบ แต่บางส่วนอาจไม่ชอบ เพราะทำให้การติดต่อราชการมีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลต้องทำหน้าที่ เพื่อประชาชนให้ได้ความสะดวกมากที่สุด

ขณะที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ประกาศวันหยุดชดเชย ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ให้หยุดชดเชย 2 วัน เป็นวันที่ 6 และ 7 กรกฎาคม โดยจะเลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นวันที่ 8 กรกฎาคม โดยยืนยันว่าไม่ได้ใช้โควต้าวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีจะประเมินให้ใช้ในเดือนถัดๆ ไป